คนไข้บางคนอาจเจอปัญหาผมร่วงเยอะ เลยซื้อแชมพูลดผมร่วง ยาสระผมที่เค้าว่าดี ยาสระผมสมุนไพรสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ทำร้ายหนังศีรษะ สระแล้วผมขึ้นรากผมแข็งแรง ไม่ร่วงง่าย แต่สระยังไงผมก็ร่วงบางอยู่ดี ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่ยี่ห้อแล้ว ผมก็ยังหลุดร่วง ถ้าหากคุณมีปัญหานี้ คุณอาจกำลังแก้ปัญหาผิดจุดอยู่

ถ้าผมร่วงเพราะผมมันมาก เนื่องจากไม่สระผมมานาน คุณก็ควรสระผมได้แล้วล่ะ แต่ผมร่วงนั้นมีหลายสาเหตุ กรรมพันธุ์ผมบาง (Androgenetic Alopecia) เป็นสาเหตุเกือบทั้งหมดของศีรษะล้านซึ่งพบได้มากกว่า 90% ของคนผมบางและล้านทั้งหมด การใช้แชมพูเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถยับยั้งการหลุดร่วงของเส้นผมได้นั่นเป็นเพราะว่าสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงหรือบาง (miniaturization) คือฮอร์โมนที่ชื่อว่า DHT (5a-Dihydrotestosterone) ซึ่งสร้างมาจากฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่า Testosterone
ถ้าหากผมบางศีรษะล้านเพราะกรรมพันธุ์ เอนไซม์ที่สร้างฮอร์โมน DHT ที่บริเวณหนังศีรษะจะมีมากกว่าคนปกติ กระบวนการนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่ตลอดทั้งในเพศชายและเพศหญิง วิธีที่จะทำให้ผมหยุดร่วงคือเราจะต้องหยุดการสร้างฮอร์โมนตัวนี้ ปัจจุบันมียาที่สามารถหยุดการทำงานของฮอร์โมนตัวนี้ได้แล้ว ถ้าหากคุณใช้ยาอย่างถูกต้อง การแก้ปัญหาก็จะตรงจุดเพราะยาเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่สาเหตุของอาการผมหลุดร่วงอย่างแท้จริง แต่ถ้าหากคนไข้ใช้ยาสระผมธรรมดา ปัญหานี้ก็จะไม่ถูกแก้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : DHT สามารถทำร้ายเส้นผมได้อย่างไร?

มีรายงานว่าการใช้แชมพู 2% Ketoconazole ร่วมกับการทานยา Finasteride และ Minoxidil ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมและเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมเนื่องจาก
Ketoconazole มีคุณสมบัติต้านเชื้อรา เมื่ออยู่ในแชมพูจะสามารถกำจัดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการคันหนังศีรษะ รังแค และทำให้ผมร่วงเมื่ออาการเรื้อรัง
Finasteride เป็นยากลุ่ม 5-alpha reductase inhibitor ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการสร้างฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผมบางและร่วง
Minoxidil คือ มีฤทธิ์เป็นยาขยายหลอดเลือด เมื่อมีกระแสเลือดผ่านไปที่หนังศีรษะมากขึ้น สารต่างๆ จากเลือดก็สามารถกระตุ้นการขึ้นของเส้นผมได้ในกรณีผมร่วงจากกรรมพันธุ์
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : การใช้ยา Minoxidil ทำให้ผมขึ้นจริงไหม?
ยาทั้งหมดนี้มีขายในหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ เมื่อใช้ร่วมกันจะสามารถแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้ แต่จะเห็นผลดีที่สุดเมื่อใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ปล่อยให้รากผมหายไปก่อนแล้วค่อยใช้ เพราะจะไม่มีผลกับเคสแบบนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้ยาต่างๆ ควรได้รับคำปรึกษาของแพทย์ก่อน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อคนไข้ได้เมื่อใช้ผิดวิธี