อาการผมร่วงในผู้หญิง เกิดจากฮอร์โมนจริงไหม รักษาอย่างไรดี 

สารบัญบทความ

ปัญหาผมร่วงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนกังวล และเกิดความสงสัยว่า “อาการผมร่วงในผู้หญิง เกิดจากฮอร์โมนจริงไหม” เพราะแม้จะบำรุงผมอย่างดี แต่เส้นผมก็ยังคงร่วงหนักอยู่ดี ความจริงแล้ว ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพเส้นผมของผู้หญิง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม หากระดับฮอร์โมนไม่สมดุล อาจทำให้ผมร่วงผิดปกติได้นั่นเองค่ะ

สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วงเยอะ ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจอาการผมร่วงในผู้หญิง ที่เกิดจากฮอร์โมน พร้อมแนะนำวิธีปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพผมให้แข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย

อาการผมร่วงจากฮอร์โมนในผู้หญิง เป็นอย่างไร

อาการผมร่วงในผู้หญิงที่เกิดจากฮอร์โมนมักแสดงออกแตกต่างจากผู้ชาย โดยส่วนใหญ่จะพบว่า ผมบางลงทั่วศีรษะ หรือบางลงเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ ทำให้เห็นหนังศีรษะชัดเจนขึ้น ไม่ได้ร่วงเป็นหย่อมเหมือนในผู้ชาย อาการผมร่วงแบบนี้มักจะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ และอาจร่วงหนักเป็นพิเศษในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างชัดเจน เช่น หลังคลอด หรือช่วงวัยทอง

ผมร่วงจากฮอร์โมน ผู้หญิง

หากคุณพบว่าผมร่วงมากผิดปกติเกิน 100 เส้นต่อวัน เป็นระยะเวลานาน หรือผมบางลงจนเห็นหนังศีรษะชัดเจน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: หวีผมแล้วผมร่วงเยอะ รักษาอย่างไร

ฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการผมร่วงในผู้หญิง

ฮอร์โมนหลายชนิดมีผลต่อวงจรชีวิตของเส้นผม หากเกิดความผิดปกติจะทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติได้ ซึ่งมีฮอร์โมนอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

  • DHT (Dihydrotestosterone) เป็นฮอร์โมนที่ทำให้รากผมหดตัวและฝ่อลง ส่งผลให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง เปราะบาง และร่วงง่ายขึ้น
  • เอสโตรเจน (Estrogen) ฮอร์โมนเพศหญิงชนิดนี้ช่วยยืดระยะการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรงและหนาขึ้น เมื่อระดับฮอร์โมนลดลง (เช่น ในช่วงวัยทองหรือหลังคลอด) ผมจะบางลงได้
  • โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำหน้าที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน หากระดับต่ำเกินไปอาจไปกระตุ้นการผลิต DHT จนทำให้ผมร่วง
  • ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid Hormones) ควบคุมการเผาผลาญและการเจริญเติบโตของร่างกาย หากระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำจะทำให้ผมร่วง ผมแห้งเสีย และบางลงได้
  • คอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด เมื่อร่างกายมีความเครียดสูง คอร์ติซอลจะทำให้วงจรผมเข้าสู่ระยะพักเร็วขึ้น จนเกิดภาวะผมร่วงฉับพลัน (Telogen Effluvium)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: วงจรชีวิตของเส้นผม เป็นอย่างไร

สาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุลจนเกิดผมร่วง

สำหรับภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล จนทำให้เกิดปัญหาผมร่วงในผู้หญิง อาจมาจากหลายสาเหตุ ดังนี้ค่ะ

1. ความเครียดสูง

ความเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้วงจรผมเข้าสู่ระยะพักเร็วขึ้น ทำให้ผมร่วงเป็นจำนวนมาก

ความเครียดสูง สาเหตุฮอร์โมนเสียสมดุล

2. ระดับฮอร์โมนเพศเปลี่ยนแปลง

เพราะเมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง เช่น ในช่วงวัยทอง ตั้งครรภ์ หลังคลอด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายจะลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ผมบางลง หนังศีรษะเริ่มเห็นชัดขึ้น

ฮอร์โมนเพศเปลี่ยน สาเหตุฮอร์โมนเสียสมดุล

3. ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์

ทั้งภาวะไทรอยด์ต่ำและไทรอยด์สูง ล้วนส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ผมอ่อนแอ ผมแห้งเสีย และร่วงง่ายขึ้น

ต่อมไทรอยด์ปกติ สาเหตุฮอร์โมนเสียสมดุล

4. ภาวะขาดสารอาหาร

การทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ จนเกิดภาวะการขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น ไบโอติน ธาตุเหล็ก วิตามินดี และโปรตีน อาจทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ และกระตุ้นให้ผมร่วงมากขึ้น

ขาดสารอาหาร สาเหตุฮอร์โมนเสียสมดุล

5. การใช้ยาคุมกำเนิด

สำหรับยาคุมกำเนิดบางชนิด อาจทำการกระตุ้นให้ฮอร์โมน DHT สูงขึ้น ทำให้ผมร่วงได้ ส่วนการหยุดยาคุมกระทันหันอาจทำให้ผมร่วงชั่วคราว เนื่องจากร่างกายต้องปรับสมดุลฮอร์โมนใหม่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีเร่งผมยาวด้วยแชมพูผสมยาคุม

ยาคุมกำเนิด สาเหตุฮอร์โมนเสียสมดุล

5 วิธีปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อสุขภาพผมที่แข็งแรง

สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วงจากฮอร์โมน หากภาวะการหลุดร่วงยังไม่ได้รุนแรงมาก วิธีปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อให้สุขภาพผมกลับมาแข็งแรง สามารถทำได้ตามนี้เลยค่ะ

1. เลือกกินอาหารที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน

  • อาหารที่ช่วยลดฮอร์โมน DHT เช่น เมล็ดฟักทอง (มี Zinc และกรดไขมันดี), ชาเขียว (มีสารคาเทชิน), อะโวคาโด (มีวิตามิน E และไบโอติน) และน้ำมันมะพร้าว (มีกรดลอริก)
  • อาหารที่ช่วยเพิ่มเอสโตรเจน เช่น ถั่วเหลือง (มีไอโซฟลาโวน), เมล็ดแฟลกซ์ (มีลิกแนน) และผักใบเขียว (อุดมด้วยวิตามินและธาตุเหล็ก)
กินอาหาร ปรับสมดุลฮอร์โมน

2. จัดการความเครียด

ความเครียดเป็นสิ่งที่ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้นจนผมร่วง การหาเวลาว่างทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น โยคะ, การทำสมาธิ, การฟังเพลง หรือการออกกำลังกายเบาๆ รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง ก็สามารถทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง และลดอาการผมร่วงได้

จัดการความเครียด

3. เสริมวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็น

การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดส่งผลกระทบโดยตรงต่อฮอร์โมนและสุขภาพผม ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอาจพิจารณาวิตามินเสริม (ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน)

  • ไบโอติน เช่น ไข่แดง, อะโวคาโด, อัลมอนด์, วอลนัท, ยีสต์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเคราติน ทำให้ผมแข็งแรงและยาวเร็ว
  • วิตามินดี เช่น ปลาแซลมอน, ปลาแมคเคอเรล, ไข่แดง ซึ่งช่วยป้องกันภาวะไทรอยด์ต่ำ
  • ธาตุเหล็ก, ซีลีเนียม, ไอโอดีน เช่น เนื้อวัว ตับ, ผักใบเขียวเข้ม, ปลาทูน่า, แซลมอน, ซาร์ดีน ซึ่งช่วยให้การสร้างฮอร์โมนไทรอยด์เป็นไปอย่างปกติ
  • ซิงค์ (Zinc) เช่น หอยนางรม, เนื้อวัว, ไก่, เมล็ดฟักทอง, ถั่วต่างๆ ซึ่งช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เปลี่ยนฮอร์โมนเป็น DHT ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผมร่วงจากพันธุกรรม

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: วิตามินช่วยชะลอผมหลุดร่วงได้ไหม

เสริมวิตามิน ปรับสมดุลฮอร์โมน

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล และช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ฮอร์โมนต่างๆ กลับมาสมดุล

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. ปรึกษาแพทย์หากผมร่วงหนักผิดปกติ

ใครที่ลองปรับพฤติกรรม กินอาหารที่มีประโยชน์ เสริมวิตามิน ลดความเครียด และดูแลสุขภาพโดยรวมแล้ว ผมยังร่วงมากผิดปกติ ยังมีสภาวะเส้นผมหลุดร่วงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เราแนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อทำการตรวจระดับฮอร์โมน และรับคำแนะนำในการรักษจะดีที่สุด เพราะการพบแพทย์จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้ได้ค่ะ

ปรึกษาแพทย์ ผมร่วงหนักผิดปกติ

สรุป ฮอร์โมนในผู้หญิง มีผลต่ออาการผมร่วงจริงไหม

ฮอร์โมนมีผลต่อการเจริญเติบโตและวงจรชีวิตของเส้นผมอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้หญิงช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ปัญหาผมร่วงในผู้หญิงที่เกิดจากฮอร์โมนสามารถจัดการได้ด้วยการปรับสมดุลฮอร์โมนจากภายใน ทั้งจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การจัดการความเครียด การพักผ่อนที่เพียงพอ และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

ถ้าหากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผมร่วงอยู่ ลองเริ่มจากวิธีดูแลตัวเองที่เราได้แนะนำไปเพื่อฟื้นฟูสุขภาพผมให้แข็งแรงกลับมาดกหนาอีกครั้ง แต่ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้น ผมร่วงจนเห็นหนังศีรษะชัด การปลูกผม FUE อาจเป็นทางออกที่ตอบโจทย์กว่าค่ะ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ Hairtran Clinic ก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ผมร่วงจากฮอร์โมน อันตรายไหม

ตอบ: โดยทั่วไปแล้วอาการผมร่วงจากฮอร์โมนไม่ใช่ภาวะที่อันตรายถึงชีวิต แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังเสียสมดุล ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตได้ หากผมร่วงอย่างรุนแรงและเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง

อาการผมร่วงในผู้หญิง เหมือนผมร่วงในผู้ชายไหม

ตอบ: ไม่เหมือนกันค่ะ อาการผมร่วงในผู้หญิงที่เกิดจากฮอร์โมนมักจะเป็นแบบผมบางลงทั่วศีรษะหรือบริเวณกลางศีรษะ แต่สำหรับอาการผมร่วงในผู้ชายจะแสดงอาการชัดเจนกว่า เช่น หัวล้านเป็นรูปตัว M หรือผมบางบริเวณกระหม่อมนั่นเองค่ะ

ผมร่วงจากฮอร์โมนผู้หญิง หายเองได้ไหม

ตอบ: ในบางกรณี เช่น ผมร่วงหลังคลอดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนชั่วคราว อาจดีขึ้นเองได้เมื่อฮอร์โมนกลับสู่ภาวะปกติ แต่หากเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ภาวะไทรอยด์ผิดปกติ หรือความเครียดสะสม อาจจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุ หากไม่รักษาอาจทำให้ผมบางลงเรื่อยๆ ได้

แชร์บทความนี้
Picture of พญ. ภัคภิญญา แจ้งเจ็ดริ้ว
พญ. ภัคภิญญา แจ้งเจ็ดริ้ว

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมปลูกผม ABHRS Certified | Full Member ISHRS
ประสบการณ์ฝึกอบรมจาก USA, Turkey, Malaysia, South Korea
เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ว.31632

ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน
หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Contact Form Service
ปลูกผม หมอแพตตี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

วิธีนอนหลังปลูกผม

วิธีนอนหลังปลูกผมที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันกราฟท์ผมหลุด

นอนผิดท่าอันตรายไหม? ทำให้กราฟท์ผมหลุดจริงหรือไม่? แนะนำวิธีนอนหลังปลูกผมที่ถูกต้อง เผยท่านอนที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อทำให้กราฟท์ผมติดแน่น ไม่หลุดง่าย
หลังปลูกผม โดนแดดได้ไหม

ปลูกผมห้ามโดนแดดได้ไหม? แชร์ 5 วิธีป้องกันแสงแดดปกป้องเส้นผม

ปลูกผมห้ามโดนแดดจริงไหม? แสงแดดมีผลต่อกราฟท์ผมหรือไม่? ต้องป้องกันอย่างไรเมื่อต้องออกกลางแจ้ง? เผย 5 วิธีป้องกันแสงแดดหลังปลูก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อาหารบำรุงผมร่วง

รวม 10 อาหารบำรุงผมร่วง ทานอะไรช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น

อาหารบำรุงผมร่วง วิตามินบำรุงเส้นผม ทานตัวไหนดี? ที่ทำให้ผมหนา ลดการหลุดร่วง และกระตุ้นการงอกใหม่ได้ ใครกำลังเผชิญปัญหาผมร่วง ผมบางอยู่ หาคำตอบได้ที่นี่
Scroll to Top