
มีคนที่ไม่เคยเครียดด้วยหรอ? ไม่จริงล่ะ ด้วยสภาพคนและสถานการณ์ในสังคมไทยปัจจุบัน มันทำให้คนมีความเครียดมากขึ้นจริงๆ และพลังลบเล็กๆ ในแต่ละวันก็สามารถส่งผลต่อสภาวะจิตใจของคนได้ และอาจทำให้คนมีอาการทางจิตเวชได้ง่ายๆ โรคดึงผมตัวเองก็คือหนึ่งในอาการทางจิตเวชที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาวะจิตใจและบุคลิกภาพของคน แถมบางคนเป็นแล้วไม่รู้ตัวหรือไม่ยอมรับอีกด้วย วันนี้เราจะมาเบิกเนตรคนเหล่านี้กัน
ดึงผมจนแหว่งเกิดจาก?
ความเครียดในชีวิตประจำวันกำลังทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่รู้ตัว พลังลบเล็กๆ ที่สะสมมาอาจกลายเป็น “พฤติกรรมทำร้ายตัวเอง” แบบไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะ “โรคดึงผมตัวเอง” ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง
โรคดึงผมตัวเองคืออะไร?

โรคดึงผมตัวเอง หรือ trichotillomania คือโรคความผิดปกติในการยับยั้งพฤติกรรมชนิดหนึ่งที่เกิดจากการดึงผมตัวเองบ่อยๆ เรื่อยๆ จนผมบริเวณนั้นบางลงหรือแหว่งเป็นหย่อมอย่างเห็นได้ชัด บางคนดึงแบบรู้ตัวแต่บางคนก็ดึงแบบไม่รู้ตัว อาการนี้มักจะเกิดขึ้นเวลาที่รู้สึกเครียด วิตกกังวล หรืออาจจะเป็นความผิดปกติของสมองที่ควบคุมอารมณ์ การสร้างนิสัย ความเคยชิน ฯลฯ จะให้ผมบางลงขนาดไหนก็ไม่สามารถจะหยุดตัวเองให้ดึงผมได้ เอาจริงๆ บางคนดึงยันขนคิ้วหรือขนตาตัวเองจนบางอย่างมีนัยสำคัญ
ดึงแล้วผ่อนคลายแต่ผลคือ “ผมแหว่ง-คิ้วหาย”
ผู้ป่วยจะรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขระหว่างหรือหลังจากที่ดึงผมตัวเอง หลายๆ คนที่มีอาการนี้จะไม่ยอมรับว่าตัวเองมีความผิดปกติ ถ้าบริเวณที่ผมบางหรือแหว่งสามารถเห็นได้ชัด เขาก็จะหาอะไรมาปกปิดบริเวณนั้น เช่น
- การใส่หมวก
- ใส่วิกผม
- สักคิ้ว
- ติดขนตาปลอม
อย่างไรก็ดี การปกปิดแบบนี้มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวและในที่สุดศีรษะของผู้ป่วยจะล้านเป็นบริเวณกว้างได้
ควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อนมาปลูกผม
คนที่มีอาการนี้แล้วและต้องการแก้ไขบริเวณที่แหว่งไปมักจะมาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังหรือเส้นผม แต่ความจริงแล้วอาการนี้เกิดขึ้นจากความผิดปกติทางสมองหรือทางจิต ถ้าปลูกผมไปแล้วอาการนี้ยังไม่หายไป ผมก็จะถูกดึงจนกลับมาแหว่งเหมือนเดิม เพราะนี่ไม่ใช่อาการผมร่วงผมบางธรรมดา ดังนั้นการแก้ไขปัญหาระยะยาวคือผู้ป่วยควรไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อบำบัดอาการนี้ก่อน แล้วค่อยมาทำการปลูกผมถาวรอีกที
อ่านเพิ่มเติม
: ปลูกผมที่ Hairtran Clinic ดีอย่างไร
: ปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE คืออะไร
: ปลูกผมราคาเท่าไร ถึงเรียกว่าคุ้มกับเงินที่จ่าย