เพื่อน ๆ ที่กำลังจะปลูกผม ทราบกันไหมคะว่าอะไรเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้การปลูกผมเป็นธรรมชาติและสวยเนียนจนดูไม่ออกว่าปลูกผมมา? เฉลยก็คือ เทคนิคการออกแบบ Hairline หรือการออกแบบแนวไรผมโดยฝีมือของคุณหมอที่ปลูกผมให้นั่นเองค่ะ
ความแตกต่างของ Hairline ผู้ชาย VS ผู้หญิง
เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าการออกแบบ Hairline นั้นมีความสำคัญมาก ๆ ต่อสัดส่วนใบหน้าของเราพอ ๆ กับกระดูกบริเวณหน้าผากที่อยู่เหนือคิ้ว ที่จะช่วยในการปรับโครงหน้าให้มีความสวยงามเหมาะกับเพศและตรงกับความชอบค่ะ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าแนวไรผมของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร?
Hairline แบบผู้หญิง หรือ Feminine Hairline

Feminine Hairline คือ แนวไรผมแบบผู้หญิง แต่ไม่ได้จำกัดเอาไว้สำหรับเพศหญิงเท่านั้นนะคะ ในกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศหรือผู้ที่อยากมีใบหน้าละมุนอ่อนช้อย ก็มักนิยมออกแบบแนวไรผมแบบ Feminine Hairline ด้วยเช่นกัน
ซึ่งโดยทั่วไปจะมีความกลมมนกว่าแบบผู้ชาย โดยวัดสัดส่วนตรงแนวกลางหน้าผากให้สูงที่สุด แล้วออกแบบแนวไรผมด้านข้างให้ค่อย ๆ ลาดลงมาตามแนวหน้าผากเป็นลักษณะคล้ายรูปไข่หรือ วงกลม (⚫️) ให้เข้ากับรูปหน้าโดยรวม
Hairline แบบผู้ชาย หรือ Masculine Hairline

Masculine Hairline คือ แนวไรผมแบบผู้ชาย โดยทั่วไปมักมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยม (⬛️) มากกว่าแนว Hairline ของผู้หญิง ซึ่งในบางท่านอาจลักษณะที่มีส่วนเว้าด้านข้างขึ้นไปคล้ายตัวเอ็ม (M)
โดยการปลูกผมของหนุ่ม ๆ ส่วนมากจะเน้นเป็นการปกปิดจุดบกพร่องหรือเพิ่มเติมผมในส่วนที่ยังไม่พึงพอใจ โดยคุณหมอที่ออกแบบแนวไรผมก็จะวัดสัดส่วนตรงแนวหน้าผากให้เข้ากับทรงหน้าของแต่ละท่าน ซึ่งถ้าหากชอบแนวไรผมทรงไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถปรึกษากับคุณหมอที่ดีไซน์ให้ได้ค่ะ
อธิบายกันมาถึงตรงส่วนนี้แล้วเพื่อน ๆ คงจะเห็นถึงความสำคัญในการออกแบบแนวไรผม ทั้ง Hairline แบบผู้หญิงและผู้ชายกันแล้วใช่ไหมคะ จะเห็นได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญอันดับต้น ๆ เลยที่เพื่อน ๆ ต้องพิจารณาเพราะจะส่งผลมากต่อผลลัพธ์การปลูกผมให้ออกมาสวยงามเสริมบุคลิกค่ะ
ดังนั้นก่อนที่เพื่อน ๆ จะตัดสินใจเลือกว่าจะปลูกผมที่คลินิกไหนดี เราแนะนำให้สอบถามเพื่อขอดูผลงานของคลินิกที่ท่านสนใจก่อน ว่าแนวไรผมที่คลินิกนั้นออกแบบมาเป็นแบบที่เพื่อน ๆ ชอบหรือไม่ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเพียงเพราะคลินิกนั้นปลูกผมราคาถูกเชียวนะคะ เดี๋ยวจะได้แนวไรผมที่ไม่ถูกใจ