ปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม Non-Shaven FUE

อีกหนึ่งเทคนิคการปลูกผมที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ เพราะมีความซับซ้อนมากกว่าการปลูกผม FUE แบบปกติ แถมคนยังชอบงงและเข้าใจผิดสลับกับการปลูกผมแบบ Long Hair อีกด้วย วันนี้เราจะมาเคลียประเด็นนี้กัน ทุกคนจะได้เข้าใจตรงกันว่าการ ปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม Non-Shaven FUE คืออะไร ต่างจากการปลูกผมปกติและการปลูกผมแบบ Long Hair FUE อย่างไร และใครสามารถทำได้บ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ก่อนอื่น เราจะเห็นว่าเทคนิคการปลูกผมธรรมชาติที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะลงท้ายด้วยคำว่า FUE หมดเลย นั่นเป็นเพราะว่าเทคนิคทั้งหมดเป็นการเจาะรากผมออกมาทีละกอเหมือนกัน ทำให้มีแผลเป็นจุดเล็กๆ เหมือนกัน และระยะเวลาพักฟื้นเท่ากัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันออกไป คือ เรื่องความยาวของเส้นผมตอนที่หมอเจาะกราฟท์ผมออกมานั่นเอง

ปลูกผม FUE

การปลูกผมแบบ FUE

อย่างที่เรารู้กัน ข้อเสียข้อเดียวของการปลูกผมแบบ FUE คือผมบริเวณด้านหลังศีรษะจะต้องถูกโกนทั้งหมดก่อน หลังจากนั้นค่อยเจาะกอรากผมออกมาทีละกอ แต่ด้วยความที่ผมด้านหลังถูกโกนจนสั้น การเจาะกราฟท์ผมก็จะดำเนินไปด้วยความง่ายดายและรวดเร็ว

ส่วนเรื่องราคา การปลูกผมเทคนิคนี้ก็จะถูกกว่าการปลูกผมเทคนิคอื่นๆ แถมยังดูแลแผลง่ายอีกด้วย เพราะผมด้านหลังบริเวณที่ทำสั้น และหลังจากสองสัปดาห์ ผมก็จะเริ่มยาวมาปิดแผลเป็นแล้ว สบายหายห่วงได้เลยค่ะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : การปลูกผมแบบ FUE 

ปลูกผม FUE
ปลูกผมแบบ Long Hair FUE

การปลูกผมแบบ Long Hair FUE

คือการที่หมอเจาะรากผมออกมาโดยที่ไม่ต้องตัดให้ผมสั้นเลย การฟท์ผมที่ได้จากการปลูกผมแบบ Long Hair FUE จึงเป็นกราฟท์ผมที่มีเส้นผมยาวอยู่ เมื่อปลูกเสร็จเราก็จะเห็นผมที่ยาวบริเวณที่ปลูกเลย เทคนิคนี้จึงมักถูกใช้ในการปลูกผมผู้หญิง ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะคะ

แต่มันก็มีข้อเสียของมันเหมือนกัน เพราะนอกจากราคาการปลูกผมเทคนิคนี้จะแพงกว่าเทคนิคอื่นๆ แล้ว ผมยาวๆ ที่ปลูกไปมันก็มักจะพันกันทำให้ต้องระวังเป็นอย่างมากเวลาสางผม ไม่อย่างนั้นกราฟท์ผมที่ปลูกไปจะหลุดติดมือมาด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นผมที่ปลูกไปจะร่วงก่อนที่มันจะยาวขึ้นมาใหม่เหมือนเทคนิคการปลูกผมทั่วไปอยู่ดี ดังนั้นคนที่อยากปลูกผมแบบ Long Hair FUE แค่เพราะไม่อยากโกนผม อาจจะต้องลองพิจารณาเทคนิคการปลูกผมวิธีถัดไปดูด้วยค่ะ

ปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE

การปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE

เทคนิคนี้จะเหมือนการผสมข้อดีระหว่างสองเทคนิคก่อนหน้าที่กล่าวมา เพราะผมบริเวณด้านหลังจะไม่ถูกโกน แต่กอผมที่หมอเลือกเจาะออกมาจะถูกตัดให้สั้นก่อน แล้วค่อยทำการเจาะกอรากผมออกมา ข้อดีของการปลูกผมวิธีนี้คือ ผมด้านหลังจะยาวเหมือนเดิม ดังนั้นแผลเป็นจะโดนผมบังตั้งแต่วันแรกที่ปลูกเลย

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากโกนผมด้านหลังโดยเฉพาะการปลูกผมผู้หญิง ทั้งนี้ทั้งนั้นผมที่ถูกปลูกจะเป็นผมที่สั้นจึงทำให้ดูแลง่าย และราคาไม่แพงเท่ากับการปลูกผมเทคนิค Long Hair FUE ด้วย แต่ด้วยความที่คุณหมอยังต้องทำงานกับผมที่ยาว การปลูกผมเทคนิคนี้จะใช้เวลามากกว่าและราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE ปกติ

ปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE

ขั้นตอนการปลูกผม Non-Shaven FUE

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ Non-Shaven

อันดับแรก คุณหมอต้องมีการวาดพื้นที่ประเมินแนวไรผมด้านหน้าที่จะปลูกผมก่อนเข้าห้องผ่าตัด เมื่อนำคนไข้เข้าห้องผ่าตัดแล้วคุณหมอก็จะเริ่มให้เจ้าหน้าที่ฉีดยาชาลงไปในบริเวณที่ต้องการจะเอากราฟท์ผมออกมาก่อนเป็นจุดแรกๆ เมื่อได้จำนวนกราฟท์ที่ต้องการแล้วคุณหมอก็จะค่อยให้คนไข้กลับตัวแล้วฉีดยาชาบริเวณที่จะปลูกผมเป็นจุดที่สอง

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE

อันดับที่สอง ก่อนที่จะทำการเจาะกอผม (กราฟท์คุณหมอจะเล็มผมเฉพาะกอผมที่ต้องการเลือกมาใช้สำหรับปลูกผมเท่านั้น ดังนั้นเส้นผมที่นำออกมาปลูกจะถูกตัดให้สั้นลงก่อน แล้วค่อยทำการเจาะกอผม (กราฟท์ออกมา หลังจากนั้นเมื่อได้กอผมที่ต้องการแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะใช้คีมคีบกอผมมาแช่ลงในน้ำยาสูตรเฉพาะของ Hairtran Clinic เพื่อเป็นการถนอมรากผมที่ถูกเจาะออกมาให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเมื่ออยู่ภายนอกร่างกายคนไข้นั่นเอง

ขั้นตอนการปลูกผม Non-Shaven

อันดับที่สาม เมื่อได้กอผม (กราฟท์แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการนำมาคัดแยกใต้กล้องจุลทรรศน์ เจ้าหน้าที่จะได้ดูว่ารากผมที่นำออกมานั้นสมบูรณ์ดีหรือไม่ และเหมาะกับการนำมาปลูกไหม ดังนั้นใครที่ปลูกผมกับคุณหมอแพตตี้ที่ Hairtran Clinic สบายใจได้เลยว่าคุณจะได้กอผมที่มีคุณภาพดี เพราะทุกขั้นตอนของการปลูกผมนั้นเป็นเรื่องสำคัญเราจึงต้องใส่ใจทุกรายละเอียดแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม Hairtran Clinic ก็จะทำให้เต็มที่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

ขั้นตอนการปลูกผมแบบไม่ต้องโกน Non-Shaven

ขั้นตอนสุดท้าย การนำกอผมที่ผ่านการคัดแยกจากอันดับที่สามมาปลูกลงในพื้นที่ที่ต้องการ โดยขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะต้องใช้ฝีมือในการปลูกผมของทีมแพทย์ที่มีความชำนาญล้วนๆ การนำกอผมโหลดลงอุปกรณ์ที่เรียกว่า Implanter Pen สามารถป้องกันไม่ให้รากผมเสียหายเวลาปลูกกลับเข้าไปในจุดที่เราต้องการได้ การปลูกผมด้วยวิธีการนี้จะทำให้โอกาสการงอกขึ้นของเส้นผมนั้นสูงกว่าการใช้ฟอร์เซปปลูกผมแบบปกตินั่นเอง ดังนั้นการใช้อุปกรณ์ Implanter Pen ชนิดนี้ รากผมจะอยู่ในสภาพที่แข็งแรงและจะไม่โดนทำลายได้ง่ายอีกด้วย

ข้อดีของ Non-Shaven FUE​

ข้อดีที่ทำให้หลายคนเลือกปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE เพราะอะไร มาดูกัน

  • อัตราการงอกขึ้นมากกว่า 90%
  • ไม่ต้องโกนผมด้านหลังให้สั้น
  • ไม่เห็นรอยแผลเพราะมีเส้นผมจริงปิดบังเอาไว้
  • ผลลัพธ์ที่ได้มีความเป็นธรรมชาติตั้งแต่วันแรกที่ปลูก
  • ไม่ต้องพักฟื้น วันรุ่งขึ้นทำงานได้เลย

การปลูกผมด้วยวิธี Non-Shaven FUE สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังปลูกผมเสร็จทันที เพราะแผลหลังปลูกจะโดนผมบังไว้ตั้งแต่วันแรกที่ปลูก ดังนั้นวิธีนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากโกนผมด้านหลังโดยเฉพาะการปลูกผมผู้หญิงยุคไฮเทคอย่างเรา

“ถ้าเราอยากรู้ว่าเราเหมาะกับการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE หรือเหมาะกับการปลูกผมแบบไหนกันแน่ Hairtran Clinic ก็สามารถให้คำปรึกษาได้ค่ะ คุณหมอจะแนะนำวิธีที่เหมาะสมให้พร้อมวัดพื้นที่และจำนวนกราฟท์ผมเลย ถ้าใครอยากปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม ก็ลองนัดคิวปรึกษากันเข้ามาได้นะคะ”

ข้อดี ปลูกผม Non-Shaven FUE

ทำไมต้องปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE

แม้การปลูกผมจะมีเทคนิคปลูกผมให้เลือกมากมาย แต่สาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนเลือกปลูกผมด้วยวิธี Non-Shaven FUE มีดังนี้ค่ะ

1. ไม่ต้องโกนผมด้านหลังให้สั้น

ปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในวงการบันเทิงหรือใครที่ทำงานใช้หน้าตาและเส้นผมทุกวันจนไม่สามารถลางานยาวๆ หรือโกนผมด้านหลังได้ การปลูกผมปรับกรอบหน้าวิธีนี้ถือว่าเป็นทางออกเดียวที่ตอบโจทย์ได้ดีสุด ปลูกผมวันนี้พรุ่งนี้ออกงานได้ทันที

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ผมถาวรคืออะไร ข้อควรรู้ก่อนปลูกผม

ขั้นตอนปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE

2. มองไม่เห็นรอยแผล

ขั้นตอนปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE ไม่ต้องโกนผมด้านหลัง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วปลูกผมด้วยวิธีนี้คุณหมอต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ในการเจาะกราฟท์หรือกอรากผมออกมาคุณหมอและทีมต้องใช้ความละเอียดมากกว่าการปลูกผมแบบ FUE ปกติ

เพราะในบริเวณที่คุณหมอจะเจาะกราฟท์ออกมาผมรอบข้างจะยังยาวอยู่ถ้าทำไม่ดีอาจเกิดความเสียหายต่อรากรอบข้างและรากผมที่เจาะออกมาได้ ปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE ใช้เวลาค่อนข้างนานรวมถึงราคาก็อาจจะสูงกว่าปลูกผมแบบปกติ

หลังปลูกผมทันที

3. เห็นแนวผมที่ปลูกทันที

หลังทำทันที เราจะเห็นได้เลยว่าแนวผมที่ปลูกไปเรียงตัวสวยและมีรอยแดงที่เกิดจากบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น วันรุ่งขึ้นลูกค้าสามารถไปทำงานได้ตามปกติ

เพียงแค่เซตผมด้านหน้าลงมาปิดบริเวณที่ปลูกผมไป เท่านี้ก็ไม่มีใครดูออกแล้วว่าเราไปปลูกผมถาวรมา แถมผมด้านหลังก็ยังยาวลงมาปิดรอยแผลเนียนเป็นธรรมชาติสุดๆ

หลังปลูกผม 14 วัน

4. เริ่มเห็นแนวไรผมชัดเจนภายใน 14 วัน

หลังปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE  ไปเพียง 14 วันเราจะเริ่มเห็นแนวไรผมที่ปลูกไปชัดเจน สามารถเซตผมได้ตามปกติ และที่สำคัญผมที่ปลูกไปเป็นธรรมชาติมากเหมือนผมจริงสุดๆ

การปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหรือรอให้ผมด้านหลังยาว เราแนะนำวิธีนี้มากๆ เลยค่ะ ปลูกผมวันนี้สามารถออกงานได้แต่วันแรกที่ทำการปลูกผมไปเลยค่ะ 

*ข้อควรรู้ในการปลูกผมถาวร

ไม่ว่าคุณจะปลูกผมถาวรด้วยวิธีไหนก็ตาม หลังปลูกผมไปช่วง 1-3 เดือนแรก ผมก็จะร่วงตามปกติและผมก็จะเริ่มงอกขึ้นมาในเดือนที่ 3-4 แล้วจะขึ้นเต็มที่ในช่วง 6-12 เดือน ใครที่มีความกังวลใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ หลังปลูกผมดูแลตัวเองยังไง

ปลูกผมถาวร

สำหรับใครที่มีความกังวลอยู่ว่าปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE  และผลลัพธ์จะได้ไม่ดีเท่ากับการปลูกผมแบบ FUE ปกติ เราขอบอกเลยว่าผลลัพธ์เหมือนกัน แตกต่างกันแค่โกนผมด้านหลังกับไม่โกนผมด้านหลังเท่านั้นเอง

ก่อน-หลังปลูกผม Non-Shaven FUE
ก่อน-หลังปลูกผม Non-Shaven FUE

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ปัญหาเส้นผม

ผมร่วงในผู้หญิง
ความรู้เรื่องเส้นผมและหนังศีรษะ

อาการผมร่วงในผู้หญิง เกิดจากฮอร์โมนจริงไหม รักษาอย่างไรดี 

ทำความเข้าใจ อาการผมร่วงในผู้หญิง เกิดจากฮอร์โมนจริงไหม อาการเป็นอย่างไร รักษายังไงได้บ้าง พร้อมแนะนำ 5 วิธีปรับสมดุลฮอร์โมน เพื่อสุขภาพผมที่แข็งแรง

อ่านเพิ่มเติม »
วิธีนอนหลังปลูกผม
ความรู้เรื่องเส้นผมและหนังศีรษะ

วิธีนอนหลังปลูกผมที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันกราฟท์ผมหลุด

นอนผิดท่าอันตรายไหม? ทำให้กราฟท์ผมหลุดจริงหรือไม่? แนะนำวิธีนอนหลังปลูกผมที่ถูกต้อง เผยท่านอนที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อทำให้กราฟท์ผมติดแน่น ไม่หลุดง่าย

อ่านเพิ่มเติม »
หลังปลูกผม โดนแดดได้ไหม
ความรู้เรื่องเส้นผมและหนังศีรษะ

ปลูกผมห้ามโดนแดดได้ไหม? แชร์ 5 วิธีป้องกันแสงแดดปกป้องเส้นผม

ปลูกผมห้ามโดนแดดจริงไหม? แสงแดดมีผลต่อกราฟท์ผมหรือไม่? ต้องป้องกันอย่างไรเมื่อต้องออกกลางแจ้ง? เผย 5 วิธีป้องกันแสงแดดหลังปลูก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

อ่านเพิ่มเติม »
Scroll to Top