ปลูกผม FUE - ข้อมูลสำคัญสำหรับผู้สนใจ

จากการรายงานของเว็บไซต์ Medihair ในปีที่ผ่านมา มีคนไทยประมาณ 31% หรือราวๆ 22 ล้าน 2 แสนคนจากจำนวนประชากรทั้งหมด ประสบปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นศีรษะล้านกันเลยค่ะ ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ไขที่หลายคนเลือกใช้ นั่นก็คือ “ปลูกผม FUE” เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ได้แนวผมที่กลมกลืนกับใบหน้า และผมที่ปลูกอยู่ได้นานในระยะยาว ทั้งนี้ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ปลูกผม FUE

ทำความเข้าใจ ปลูกผม FUE คืออะไร

เทคนิคปลูกผม FUE หรือ Follicular Unit Excision เป็นวิธีการปลูกผมรูปแบบหนึ่งที่จะทำการย้ายรากผมจากบริเวณ Safe Zone ไปยังบริเวณที่ผู้เข้ารับบริการมีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านค่ะ โดยใช้เครื่องมือขนาดเล็กพิเศษในการเก็บรากผมที่ละกราฟท์

หลักการของ FUE คือการเอารากผมจากส่วนที่ผมยังแข็งแรงดี โดยส่วนใหญ่จะเป็นด้านหลัง (ท้ายทอย) หรือด้านข้างของหนังศีรษะนำมาปลูกในบริเวณที่ผมร่วงหรือบาง ซึ่งวิธีการปลูกผมเช่นนี้จะช่วยให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ได้อย่างกลมกลืนและดูเป็นธรรมชาติ

โดยความแตกต่างของ FUE และการปลูกผมวิธีอื่นๆ คือ FUE ไม่ต้องผ่าตัดแบบเปิดเป็นเส้น (Strip) เหมือนการปลูกผม FUT ซึ่งเป็นวิธีเก่า และที่สำคัญรอยแผลมีขนาดเล็ก ~0.8 มม. เท่านั้น ส่งผลให้การพักฟื้นมีระยะสั้น และแผลหายเร็วกว่าวิธีอื่นค่ะ

ข้อดีของการปลูกผม FUE

ปลูกผม FUE ข้อดีมีหลายอย่างที่ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้านอย่างถาวร เพราะอะไร มาดูกันค่ะ

รอยแผลขนาดเล็ก

1. รอยแผลขนาดเล็ก

จุดเด่นของเทคนิคปลูกผม FUE คือรอยแผลมีขนาดเล็กมาก ~0.8 มม. ซึ่งแผลจะสมานตัวและหายได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งต่างจากการปลูกผมแบบผ่าตัด (FUT) ที่จะทิ้งรอยแผลเป็นแนวยาว และอาจมองเห็นชัดเมื่อตัดผมสั้น 

ปลูกผม พักฟื้นสั้น

2. ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า

ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหรือทำงานได้ภายใน 1-3 วันหลังจากปลูกผมค่ะ เนื่องจากการปลูกผมด้วยวิธี FUE มีรอยแผลขนาดเล็ก หายเร็ว จึงทำให้มีระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นกว่า

ปลูกผม FUE ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

3. ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ที่ Hairtran Clinic แพทย์จะปลูกผมโดยใช้ Implanter Pen ทุกเคส พร้อมกับมีการควบคุมทิศทางและมุมในการปลูก ทำให้เส้นผมที่ขึ้นใหม่ดูกลมกลืนไปกับแนวผมเดิม ซึ่งส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดูเป็นธรรมชาติ

ข้อจำกัดและผลข้างเคียงที่ควรทราบ

แม้ว่าเทคนิคปลูกผม FUE จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดและผลข้างเคียงบางอย่างที่ผู้สนใจปลูกผมควรทราบและพิจารณาก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการค่ะ

ข้อจำกัดของเทคนิค FUE

ข้อจำกัดของการปลูกผมด้วยวิธี FUE มีดังนี้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังปลูกผม FUE มีดังนี้

ขั้นตอนปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision)

การทำหัตถการปลูกผมด้วยวิธี FUE ที่ Hairtran Clinic เราได้ออกแบบมาให้ผู้เข้ารับบริการได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปรึกษาปัญหาอย่างละเอียด การออกแบบแนวผมเฉพาะบุคคล การเก็บรากผม การให้บริการอาหารกลางวัน การปลูกผม และ การให้คำแนะนำในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะหลังปลูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่วางแผนไว้

การประเมินก่อนปลูกผม (Pre-Procedure)

ก่อนจะปลูกผม FUE สิ่งสำคัญนั่นก็คือการปรึกษาการปลูกผมกับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาเส้นผม โดยแพทย์จะซักประวัติสุขภาพและวิเคราะห์ปัญหาผมร่วง ผมบาง เพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

ขั้นตอนต่อมาแพทย์จะทำการวิเคราะห์คุณภาพและปริมาณผมของผู้เข้ารับบริการ โดยเฉพาะบริเวณที่จะเจาะเอารากผมออกมา เพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาณกราฟท์เพียงพอต่อความต้องการในการปลูก

จากนั้นแพทย์จะทำการออกแบบแนวผมที่เหมาะสมกับรูปหน้าและความต้องการ โดยจะร่วมหารือกับลูกค้าเพื่อออกแบบ Hairline ที่ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับบุคลิกของแต่ละบุคคล

สุดท้าย แพทย์จะคำนวณจำนวนกราฟท์ที่จะนำมาปลูกอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ความหนาแน่นและผลลัพธ์ที่เป็นไปตามความคาดหวัง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการปลูกผมแบบ FUE ค่ะ

ปลูกผม FUE วันผ่าตัดจริง

วันทำหัตถการปลูกผม (Procedure Day)

ที่ Hairtran Clinic ขั้นตอนการปลูกผมด้วยวิธี FUE มีดังนี้

  • ถ่ายภาพก่อนปลูกผม เมื่อเดินทางมาถึง ทีมผู้ช่วยแพทย์จะบันทึกภาพเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของเส้นผมในแต่ละช่วง
  • ออกแบบแนวผม แพทย์จะซักประวัติ พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเส้นผม และออกแบบแนวผมให้เหมาะกับโครงหน้า
  • เก็บรากผม หลังจากฉีดยาชาเฉพาะที่ แพทย์จะทำการเก็บรากผมโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางขนาดเล็ก WAW DUO FUE System
  • พักรับประทานอาหารกลางวัน ระหว่างขั้นตอนการปลูกผม ทางคลินิกมีบริการอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้ารับบริการ เพื่อให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
  • เริ่มการปลูกผม แพทย์จะทำการปลูกผมทีละกราฟท์ โดยคำนึงถึงทิศทาง ความถี่ และความเหมาะสมของตำแหน่ง เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
  • รับคำแนะนำหลังทำปลูกผม หลังเสร็จสิ้นขั้นตอน แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลหนังศีรษะอย่างละเอียด
ปลูกผม FUE วันผ่าตัดจริง
การดูแลหลังปลูกผม FUE

การดูแลตัวเองหลังปลูกผม (Post-Procedure Care)

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผลลัพธ์การปลูกผมเป็นไปอย่างที่คาดหวัง ซึ่งสิ่งที่ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตาม มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการแกะหรือดึงสะเก็ดแผล เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนต่อรากผม

  • งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก โดยเฉพาะในช่วง 14 วันแรก เพื่อให้หนังศีรษะแห้งและลดโอกาสเกิดการระคายเคือง

  • สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนในการสระผม หากครบ 14 วันแล้วยังมีสะเก็ดหลงเหลืออยู่ ทางคลินิกมีบริการหมักน้ำมันมะกอกเพื่อช่วยดูแลบริเวณดังกล่าว

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ในช่วง 14 วันแรก หลีกเลี่ยงการต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ

  • งดการยืด ดัด หรือทำสีผม อย่างน้อย 2 เดือนหลังปลูกผม เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ

  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดูแลเป็นไปตามแผนการรักษาและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ปลูกผม FUE เหมาะสำหรับใคร

การปลูกผมด้วยวิธี FUE เป็นเทคนิคที่ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นดูธรรมชาติและถาวร แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ซึ่งการปลูกผม FUE เหมาะกับใครบ้าง มาดูกันค่ะ

ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรม

1. ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรม

ผู้ที่มีแนวผมเว้าลึก หรือศีรษะล้าน

2. ผู้ที่มีแนวผมเว้าลึก หรือศีรษะล้านส่วนบน

ผู้ที่มีผมบาง อยากเพิ่มความหนาแน่น

3. ผู้ที่มีผมบาง อยากเพิ่มความหนาแน่น

ผู้ที่ต้องการปกปิดรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ

4. ผู้ที่ต้องการปกปิดรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ

ผู้ที่ต้องปลูกผม แต่มีระยะเวลาพักฟื้นสั้น

5. ผู้ที่ต้องปลูกผม แต่มีระยะเวลาพักฟื้นสั้น

ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

ก่อนตัดสินใจทำหัตถการปลูกผมแบบ FUE มีหลายปัจจัยที่คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณมากที่สุด ดังนี้ค่ะ

  • กรรมพันธุ์ ประวัติครอบครัวเกี่ยวกับปัญหาผมร่วงเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินแนวโน้มของผมในอนาคต

  • อายุ อายุของผู้เข้ารับบริการมีผลต่อความแข็งแรงของรากผมและผลลัพธ์ที่คาดหวัง

  • ความคาดหวัง ควรมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่สามารถทำได้จริงจากการปลูกผม

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ หรือความเครียด อาจส่งผลต่อสุขภาพผม

  • ความพร้อมในการปลูกผม พิจารณาสุขภาพโดยรวม การมีโรคประจำตัว และการรับประทานยาต่างๆ

*คำเตือนสำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและตรงตามที่คาดหวัง นอกจากข้อควรพิจารณาเหล่านี้ สิ่งที่คุณควรทำคือการปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพเส้นผมและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลจะดีที่สุด

ข้อดี ปลูกผม Non-Shaven FUE

Non-Shaven FUE วิธีปลูกผมแบบไม่ต้องโกน

สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องการโกนผม หรือตัดผมสั้นก่อนการปลูกผม Non-Shaven FUE คือทางออกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว เทคนิคนี้ช่วยให้คุณสามารถปลูกผมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงลุคที่เห็นได้ชัดเจนในทันที

เทคนิคปลูกผม FUE แบบไม่ต้องโกนนี้ แพทย์จะเลือกเก็บกราฟท์ผมจากบริเวณที่มีผมยาวปกคลุมอยู่แล้ว ทำให้สามารถซ่อนรอยการเก็บกราฟท์ได้อย่างแนบเนียน

ด้วยวิธีการปลูกผมเทคนิคนี้ Non-Shaven FUE จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้คนอื่นๆ สังเกตเห็นว่าเพิ่งผ่านการปลูกผมมา 

โดยคุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาพลักษณ์หลังทำเหมือนวิธีการปลูกผมแบบอื่นๆ

เปรียบเทียบปลูกผม FUE FUT และ DHI

สำหรับใครที่คิดจะปลูกผม แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะปลูกแบบไหนดี Hairtran Clinic เราได้รวบรวมข้อมูลการปลูกผม FUE, FUT และ DHI มาให้แล้วที่ตารางนี้ มาดูกันดีกว่าค่ะว่าแบบไหนเหมาะกับคุณ

คุณสมบัติ/วิธีปลูกผม
ปลูกผมแบบ FUE (DHI)
ปลูกผมแบบ FUT
รอยแผลเป็น
แผลเล็ก ~0.8 มม. เท่านั้น
แผลเป็นเส้นตรงยาว บริเวณท้ายทอย
ระยะเวลาพักฟื้น
พักฟื้นสั้น ประมาณ 1-3 วัน
พักฟื้นนาน ประมาณ 10-14 วัน
ความเจ็บ
เจ็บน้อย
เจ็บมากกว่า FUE
จุดเด่น
ไม่มีแผลเป็นเส้นยาว
พักฟื้นสั้น
เหมาะกับคนที่ชอบตัดผมสั้น
อัตราการรอดของกราฟท์สูง
เหมาะกับคนศีรษะล้านบริเวณกว้าง
ข้อจำกัด
อาจเก็บกราฟท์ได้จำกัด
ใช้เวลานานกว่า FUT (ในกรณีที่ปลูกจำนวนมาก)
มีแผลเป็นเส้นยาว
เจ็บปวดมากกว่า
พักฟื้นนานกว่า
ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการตัดผมสั้นมากๆ
เหมาะกับใคร
ผู้ที่ชอบตัดผมสั้น
ผู้ที่ต้องการไม่มีแผลเป็นเส้นยาว
ผู้ที่ต้องการพักฟื้นสั้น
ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงไม่มาก
ผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนมาก (ศีรษะล้านบริเวณกว้าง)
ผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องรอยแผลเป็นหลังทำ

*หมายเหตุ ใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหนังศีรษะล้าน และต้องการปลูกผมถาวร เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อหาการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลค่ะ

ราคาปลูกผม Hairtran Clinic

ข้อมูลค่าใช้จ่าย ปลูกผม FUE ราคาเท่าไหร่

ที่ Hairtran Clinic การปลูกผมด้วยวิธี FUE เริ่มต้นเพียง 90,000 บาท และมีคุณหมอแพตตี้ค่อยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดในทุกๆ ขั้นตอน โดยราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ผลลัพธ์จากผู้ใช้บริการ

คลินิกปลูกผม Hairtran เราประเมินและออกแบบแนวผมให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับผมเดิม 

ปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด 2500 กราฟท์
ปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด 1500 กราฟท์
ปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด 3500 กราฟท์
ปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด 2700 กราฟท์
ปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด 3190 กราฟท์

*หมายเหตุ ภาพด้านบนเป็นตัวอย่างผลการรักษาในกรณีเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงสุขภาพ อายุ การดูแลตัวเองหลังปลูกผม และปัญหาเส้นผมของแต่ละบุคคล

พญ.ภัคภิญญา แจ้งเจ็ดริ้ว (หมอแพตตี้)

หมอแพตตี้ หรือ พญ. ภัคภิญญา แพทย์ด้านหัตถกรรมปลูกผมที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี โดยได้สั่งสมความรู้จากการเข้าร่วมการฝึกอบรมกับสมาคมปลูกผมนานาชาติในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ตุรกี เกาหลีใต้ และมาเลเซีย

ในฐานะสมาชิกสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) และสมาคมแพทย์ศัลยกรรมปลูกผมแห่งเอเชีย (AAHRS) คุณหมอแพตตี้จึงนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาปรับใช้ในทุกขั้นตอนการปลูกผมที่ Hairtran Clinic เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์จะออกมาดูธรรมชาติและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ที่ผ่านมา คุณหมอแพตตี้ได้ทำการปลูกผมให้กับลูกค้ามาแล้วมากกว่า 4,000 เคส ซึ่งมีทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จและประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการศัลยกรรมปลูกผม

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: รู้จักหมอแพตตี้ และทีมงานประจำ Hairtran Clinic

แพทย์อเมริกันบอร์ด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

รวมคำถามที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับข้อมูลการปลูกผม FUE พร้อมตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น

การปลูกผม FUE ปลอดภัยไหม?

การปลูกผมแบบ FUE เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 การปลูกผมยังคงมีความเสี่ยง ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นหากคิดจะปลูกผมถาวร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจจะดีที่สุดค่ะ

ผลลัพธ์ของการปลูกผมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการค่ะ ไม่ว่าจะเป็น คุณภาพของรากผม สุขภาพของผู้เข้ารับบริการ ทักษะของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม โดยผมจะเริ่มขึ้นในช่วง 3 เดือน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในช่วง 9-12 เดือน

โดยทั่วไปผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 1-3 วัน แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ค่ะ เพื่อลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองในบริเวณที่ปลูกผม ซึ่งมีผลต่อการขึ้นของเส้นผมค่ะ

ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องทำเพิ่มเติมเพื่อให้หนังศีรษะมีความหนาแน่นของเส้นผมตามที่ต้องการ และสำหรับบางคนอาจต้องทำซ้ำเพื่อรักษาอาการผมร่วงในบริเวณอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ทางที่ดี เราแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจค่ะ

จำนวนกราฟท์ที่ใช้ในการปลูกผมแบบ FUE จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์เป็นหลัก โดยจะพิจารณาจากระดับความบางของผม, ความต้องการของลูกค้า, คุณภาพของผมบริเวณท้ายทอย จากนั้นคุณหมอจะทำการออกแบบแนวไรผม (Hairline Design) เพื่อให้เห็นบริเวณที่ต้องการปลูกผม และจะคำนวณจำนวนกราฟท์ให้เหมาะสมกับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละบุคคลค่ะ

ปรึกษาฟรี

ปรึกษาการปลูกผม FUE และสอบถามทุกปัญหาเรื่องเส้นผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่

Contact Form Service
Scroll to Top