โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) ส่งผลกระทบต่อเส้นผมและหนังศีรษะอย่างไร

โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) เป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง จริงๆ ไม่ใช่โรคใหม่อะไร แต่แค่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าตัวเองเป็น โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) เพราะลักษณะอาการของ โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) จะมีอาการเหมือนผื่นแพ้ทั่วไป เช่น มีผื่นแดงตามลำตัว ตามหนังศีรษะและมีอาการคันร่วมด้วย จึงทำให้คนส่วนใหญ่มักมองข้ามโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) นี้ไป จนมารู้ตัวอีกทีก็เริ่มมีอาการหนักแล้วเช่น ผมร่วงเป็นวงกว้าง ผิวลอกดำไหม้ หนังศีรษะแดง ตัวแดงเป็นต้น เดี๋ยววันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคชนิดนี้กันว่าจริงๆ แล้วมันคือโรคอะไรกันแน่และร้ายแรงไหม ถ้าเกิดว่าเราเป็นโรคชนิดนี้ควรรับมืออย่างไร

เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบภายในรูขุมขนที่มีเม็ดเลือดขาวมาทำลายเซลล์ต้นกำเนิดผมทำให้ผมร่วงเร็วขึ้น แต่ยังมีบางสถาบันที่ออกมาศึกษาและวิจัยค้นพบว่าพันธุกรรมหรือฮอร์โมนก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน กลุ่มคนที่มักเป็นโรคชนิดจะพบได้ในผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนเป็นต้นไป แต่อย่าตกใจไป

ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนอาจจะทำให้ฮอร์โมนสวิงมากกว่าคนปกติ ส่งผลทำให้เกิดปัญหาผมร่วงผมบางเป็นหย่อมได้ ดังนั้นถ้าเกิดว่ามีอาการผมร่วงแบบมีแผลรวมอยู่ด้วย แนะนำให้รีบปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางน่าจะดีกว่าปล่อยให้หายเองและไม่ควรซื้อยามาทานเองด้วย เพราะอาจจะรักษาไม่ถูกโรค

1. สภาวะผมร่วงแบบมีแผล ผมร่วงลักษณะนี้เป็นอาการผมร่วงที่เกิดจากการอักเสบของหนังศีรษะจนผมบริเวณนั้นร่วงลงมาแล้วทิ้งรอยแผลไว้ให้เห็น
2. แผลที่เกิดจากผมร่วงนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะกลายเป็นแผลเป็น จนทำให้ผมบริเวณนั้นบางเป็นวงและผมจะไม่งอกขึ้นมาใหม่ส่งผลทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้หัวล้านแบบถาวรได้
3. ส่วนใหญ่แล้วผมที่ร่วงจากโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) จะเห็นได้ชัดกว่าผมร่วงแบบปกติ ส่วนใหญ่แล้วผมมักจะร่วงบริเวณเเนวไรผมด้านหน้าหรือผมบริเวณด้านข้างเหนือกกหูเป็นต้นไป โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) พบมากในกลุ่มผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไปมากกว่าผู้ชาย
4. คนที่เป็น โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) นี้จะพบได้ว่าหนังศีรษะแห้งเป็นขุย หนังศีรษะเป็นสีแดงคันอักเสบแสบด้วย แสดงว่ารูขุมขนบริเวณนั้นเกิดอาการอักเสบจนทำให้หนังศีรษะมีสีเปลี่ยนไปจากเดิม นี่คือสัญญาณเตือนว่าคุณมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้
5. โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) ส่งผลให้ผมร่วงก็จริง คนที่เป็นโรคนี้ก็ยังมีโอกาสที่ขนบริเวณอื่นร่วงตามไปด้วย เช่น ขนแขน ขนขาหรือขนทุกจุดบนร่างกาย ตรงไหนที่มีรูขุมขนก็อาจจะเกิดอาการอักเสบบริเวณรอบรูขุมขนและขนหรือผมบริเวณนั้นก็ร่วงเป็นวงๆ จนน่าตกใจ ร้ายไปกว่านั้นในบางรายอาจจะมีสภาวะหน้าคล้ำดำลอกเหมือนโดนของร่วมด้วย

โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) ได้มีการคาดการณ์จากทางกรมการแพทย์ว่าเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายมีความผิดปกติจึงทำให้ร่างกายตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันได้ไม่ดีเท่าที่ควรและเกิดผลกระทบต่อร่างกายส่วนอื่นๆ ตามมา เช่น เเพ้สิ่งของใช้รอบตัว สบู่ ครีมบำรุงผิว ยาสระผม หรือเกิดจากคนป่วยที่รับประทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจจะเกิดโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) นี้ได้ โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อไม่ใช่โรคที่เผยแพร่ไปยังผู้อื่นได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะติดต่อโดยการสัมผัสคนป่วย โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเพียงแค่อาจจะทำให้เสียความมั่นใจเวลาพบเจอผู้คนก็เท่านั้น

การรักษาโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการโดยทั่วไปแล้วคุณหมอจะเน้นการรักษาเพื่อลดการอักเสบของผิวหนังบริเวณนั้น และรักษาตามอาการเบื้องต้น คนที่สงสัยว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ เมื่อไปพบคุณหมอ คุณหมอจะทำการตัดชิ้นเนื้อบริเวณที่มีอาการไปวินิจฉัยโรคอีกที เพื่อยืนยันว่าเราป่วยเป็นโรคชนิดนี้จริงหรือไม่

• วิธีการการรักษา คุณหมอจะจ่ายยาต้านการอักเสบของผิวหนัง กลุ่มยากินพวกสเตียรอยด์หรือยารักษาภูมิแพ้ เพื่อลดอาการแพ้ผื่นคันแดง คุณหมอจะจ่ายยาให้คนไข้ไปทานประมาณ 7 ถึง 14 วัน เพื่อดูอาการถ้าเกิดทานยาไปแล้วอาการดีขึ้นก็ไม่ต้องกลับมารักษาต่อ แต่ถ้าเกิดทานยาไปแล้วอาการไม่ดีขึ้นอันนี้ต้องรีบกลับมาหาคุณหมอโดยเร็ว
• ยาชนิดทาแบบครีมคุณหมอจะให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เพื่อรักษาอาการผื่นแดงคัน ยากลุ่มนี้ห้ามไปซื้อมาทำการรักษาเองนะคะ เพราะเป็นยาอันตรายดังนั้นควรอยู่ในการดูแลของคุณหมอเท่านั้น
• เลือกใช้แชมพูที่อ่อนโยนสำหรับใครที่เป็นโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) บริเวณหนังศีรษะควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารเคมีรุนแรงที่จะส่งผลทำให้หนังศีรษะแห้งแสบคันลอก ควรใช้แชมพูที่อ่อนโยนเหมือนแชมพูเด็กหรือแชมพูที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเป็นทางออกที่ดีที่สุด

• ควรหลีกเลี่ยงความร้อนในช่วงที่ผู้ป่วยเป็นโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) นี้ คุณหมอจะแนะนำไม่ให้ใช้ความร้อนกับเส้นผมและหนังศีรษะเพราะจะยิ่งทำให้หนังศีรษะแห้งและอักเสบไปกว่าเดิม ใช้หวีซี่ห่างในการหวีผมหลีกเลี่ยงการดึงเส้นผมไม่ควรรัดผมควรปล่อยผมเพื่อให้หนังศีรษะรู้สึกสบาย

การป้องกันดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) นี้ คือ หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคนี้ เช่น ห่างไกลความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่สูบบุหรี่ เป็นต้น ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันที่แน่ชัดสำหรับโรคชนิดนี้เนื่องจากยังไม่มีสถาบันการแพทย์ไหนออกมารับรองว่าโรคนี้มีสาเหตุเกิดมาจากอะไรกันแน่ ดังนั้นทุกคนควรดูแลตัวเองให้ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ให้ถึงเพื่อจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้ดีขึ้นและห่างไกลจากโรคนี้

หากใครที่สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ถ้าใครที่ผมร่วงจาก โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) ไม่ต้องมาหาคุณหมอปลูกผมนะคะ เพราะโรคชนิดนี้เป็นโรคทางผิวหนังควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่โรงพยาบาลเท่านั้น แต่ถ้าใครรักษาโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) หายแล้วและอยากกลับมาปลูกผมอันนี้สามารถเอาใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลมาให้คุณหมอผมทำการพิจารณาปลูกผมได้เลยค่ะ

  Cr รพ  จุฬาลงกรณ์สภากาชาติไทย ขอขอบคุณ ข้อมูลจากสถาบันการแพทย์แหล่งต่างๆ ที่มาแชร์ความรู้

ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953