ปลูกผมหลังรับเคมีบำบัดได้รึเปล่า
เรื่องหัวล้านที่มาจากกรรมพันธุ์อาจเป็นเรื่องเล็กๆ ของชีวิตไปเลยถ้าเทียบกับปัญหาโรคมะเร็ง เพราะโรคมะเร็งจะกลายเป็นเรื่องหลักที่คุณอยากดูแล แน่นอนว่าการหลุดร่วงของเส้นผมจากการทำเคมีบำบัดนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายคนต้องพบเจอ และอาจทำให้ความมั่นใจของคนไข้ลดน้อยลงได้ แต่ผมร่วงจากเคมีบำบัดนั้นแตกต่างจากผมร่วงจากกรรมพันธุ์ค่ะ ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหลุดร่วงทั้งสองแบบกันก่อน
ผมที่ร่วงแบบกรรมพันธุ์คือการที่ฮอร์โมน DHT ออกฤทธิ์มากเกินไป ทำให้ผมบางขึ้น เส้นเล็กขึ้นและร่วงในที่สุด การที่ผมร่วงแบบนี้ มันจะเริ่มบาง และล้านโดยมีรูปแบบของมัน เช่น ผู้ชายเค้าจะเริ่มบางจากด้านหน้าขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ หรืออาจจะบางแบบไข่ดาว ส่วนผู้หญิงจะบางทั่วทั้งศีรษะ เป็นต้น
ส่วนผมที่ร่วงจากเคมีบำบัด หรือที่เรียกว่า “คีโม” (Chemotherapy) นั้นเกิดจากยาที่ใช้ในการต้านมะเร็ง ทำให้ผมร่วง โดยรูปแบบการร่วงของผมก็จะไม่เหมือนกับการร่วงแบบกรรมพันธุ์ เพราะจะร่วงเร็วกว่ามาก และร่วงทั่วๆ หรือเป็นหย่อมๆ ไม่มีบริเวณที่ร่วงก่อนหลังที่แน่นอน สาเหตุการร่วงนั้นมาจากการที่ตัวยาพุ่งเป้าหมายไปที่เซลล์ในร่างกายที่แบ่งตัวอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือเซลล์มะเร็ง แต่ก็รวมไปถึงเซลล์ที่มีการแบ่งตัวเร็วในร่างกายด้วย เช่น เซลล์เม็ดเลือดต่างๆ ในไขกระดูก เซลล์เยื่อบุตามทางเดินอาหาร เซลล์ในระบบสืบพันธุ์ รวมไปถึงเซลล์บริเวณรูขุมขนของเส้นผม จึงทำให้ผมร่วง แต่ผลกระทบดังกล่าว เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อยาหมดฤทธิ์ ผมก็จะขึ้นมาเหมือนเก่าตามลำดับ
ถ้าหากคุณกังวลเรื่องผมร่วงเพราะเคมีบำบัด ควรรอจนกว่าครบคอร์สการรักษาแล้ว 1 ปี หากผมยังล้านหรือบางอยู่ ค่อยพิจารณาการรักษาด้วยการปลูกผมจะดีกว่าค่ะ
ทำไม “คีโม” (Chemotherapy) ถึงทำให้ผมร่วง
“คีโม” (Chemotherapy) ทำให้ผมร่วง นั้นเป็นเรื่องจริงที่ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่ต้องเจอไม่สามารถหลีกหนีได้
การรักษาด้วยการทำเคมีบำบัดใช้ในการรักษามะเร็ง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า จะมีฤทธิ์ทำร้ายเซลล์ที่เป็นเนื้อร้ายและช่วยลดขนาดเนื้องอกที่จุดต่างๆ ในร่างกาย แต่สิ่งที่ได้ตามมาจากการรักษาคือ อาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ภูมิต้านทานตก ผมร่วง ผมบาง เป็นต้น
อาการจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวยาที่คนไข้ได้รับจากการรักษา เพราะการรักษามะเร็งแต่ละชนิดจะใช้ยาในการรักษาที่แตกต่างกัน จึงเป็นสาเหตุทำให้คนที่ได้รับการรักษามีอาการไม่พึงประสงค์ตามมาแทบทุกคน
การทำคีโม (Chemotherapy) เป็นการประคองตัวคนไข้ไม่ให้มีอาการหนักลงไปกว่าเดิมโดยการกำจัดเซลล์มะเร็งทิ้งไป แต่ในขณะเดียวกันยาเคมีบำบัดหรือคีโมก็มีส่วนในการทำลายเซลล์ปกติของตัวคนไข้ที่ป่วย รวมถึงเซลล์ที่ผลิตเส้นผมด้วย โดยธรรมชาติแล้วเซลล์ในร่างกายของคนไข้เมื่อถูกทำลายแล้วร่างกายสามารถสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน
ในช่วงแรกๆ ที่มีการฉายเเสงทำคีโม คนไข้อาจมีอาการผมร่วงหนักกว่าปกติช่วงที่ทำการรักษาคุณหมอจะแนะนำให้คนไข้ทำการตัดผมสั้นจะได้สะดวกในการดูแลรักษา หรือใครที่ต้องโกนผมคุณหมอจะแนะนำให้หาซื้อวิกมาใส่เพื่อปิดบัง
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการรักษาโดยการทำคีโมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างนะ
อันดับแรกเลย กำลังใจเพราะถ้าสภาพจิตใจแย่ก็จะส่งผลทำให้สภาพร่างกายแย่ตามไปด้วย
อันดับที่สอง ลดความเครียดเพราะถ้ายิ่งเครียดเส้นผมที่ถูกทำคีโมก็จะค่อยๆ ร่วงเยอะขึ้นกว่าเดิม
อันดับสาม รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ถ้าร่างกายรับสารอาหารที่มีประโยชน์ก็จะทำให้คนไข้ฟื้นตัวได้ไว
อันดับที่สี่ ห้ามสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เด็ดขาดเพราะมะเร็งบางชนิดเมื่อถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเหล่านี้ก็จะยิ่งโตขึ้นและใหญ่ขึ้นอีกด้วย
แต่เมื่อร่างกายของเราหยุดการทำคีโมหรือการฉายเเสงเมื่อไร เซลล์ต่างๆ ในร่างกายก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ ดังนั้นการรักษาต้องมีระยะพักระหว่างให้ยาหรือการฉายแสงแต่ละครั้งก็เพื่อให้เซลล์ใหม่ในร่างกายได้ฟื้นตัวกลับสู่สภาพปกติบ้าง หลังการรักษามะเร็งถ้าใครที่หายเป็นปกติแล้วอยากเข้ามารับบริการปลูกผมถาวรสามารถทำได้ แต่ต้องมีเอกสารใบรับรองจากแพทย์การรักษามะเร็งมายื่นให้คุณหมอที่ทำการปลูกผมดูด้วยนะคะ ด้วยรักและห่วงใยจากคุณหมอแพตตี้ Hairtran Clinic
ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953