10 อาหารบํารุงผมร่วงและวิตามิน ทานอะไรช่วยให้ผมหนา แข็งแรง ไม่ร่วงง่าย?
คุณเคยกำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่หรือเปล่า ? ผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะเริ่มเห็นชัด ซึ่งทราบหรือไม่ว่า ปัจจุบันมี อาหารบํารุงผมร่วง ตัวช่วยเพื่อให้เส้นผมดูหนาแข็งแรง ไม่ร่วงง่าย เพียงแค่ให้ความสำคัญกับการรับประทาน โดยการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ สามารถช่วยลดปัญหาผมหลุดร่วง ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงดูหนา ไม่ร่วงง่าย
การใส่ใจในโภชนาการ เลือกรับประทาน อาหารบํารุงผม ผมร่วง ที่มีประโยชน์ เพราะวิตามินบางชนิดช่วยกระตุ้นรากผมให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถช่วยลดการหลุดร่วงและเป็นตัวขับเคลื่อนในการเร่งให้ผมงอกใหม่ได้เร็วขึ้น ถ้าอยากมีผมหนาสุขภาพดี ไม่ต้องพึ่งหมอหรือใช้ทรีตเมนต์ราคาแพงแค่เลือกกินให้ถูกต้องก็สามารถช่วยคุณได้
ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปสำรวจ 10 อาหารและวิตามินที่ดีที่สุดในการบำรุงเส้นผมในปี 2025 พร้อมแนะนำเคล็ดลับการรับประทานให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด อยากรู้ว่าต้องกินอะไรบ้าง? ติดตามกันต่อได้เลย

ทำไมเส้นผมต้องการสารอาหารบํารุงผมร่วงที่มีประโยชน์ ?
จุดเริ่มต้นของเส้นผมสร้างจาก “เคราติน (Keratin)” ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ดังนั้น รากผมจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอซึ่งมีผลลัพธ์โดยตรงส่งผลให้ผมมีสุขภาพที่แข็งแรงลดปัญหาการหลุดร่วง
- หากร่างกายของเรา เกิดภาวะขาดสารอาหารที่สำคัญต่อเส้นผม จะทำให้คุณพบกับปัญหาระยะยาว
- พบอาการผมร่วงเยอะผิดปกติ
- ผมดูบางลง โดยบริเวณหนังศีรษะเริ่มเห็นชัด
- ผมขึ้นใหม่ช้า มีภาวะเส้นผมอ่อนแอ
การให้ความสำคัญโดยเลือกอาหารที่มีวิตามินบำรุงเส้นผมโดยตรง เป็นหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้ผมดูแข็งแรงมากขึ้น สามารถช่วยลดอาการหลุดร่วง นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมให้กับคุณได้
อ่านเพิ่มเติม: หลังทำการปลูกผม ควรดูแลตัวเองยังไง

10 อาหารและวิตามินบำรุงเส้นผม ทานอะไรช่วยผมหนา แข็งแรง ไม่ร่วงง่าย อัปเดต 2025
การมีเส้นผมที่แข็งแรงเริ่มจากภายในสู่ภายนอก โดยสามารถลดปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือผมอ่อนแอ “การกินอาหารและวิตามินที่ถูกต้อง” ให้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้
วันนี้เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลอัปเดตล่าสุดปี 2025 โดยรวบรวมอาหาร 10 ชนิด รวมถึงวิตามินที่ช่วยบำรุงเส้นผม อีกทั้งยังมีงานวิจัยรับรองว่าสามารถช่วยให้เส้นผมหนา แข็งแรง และลดผมร่วง พร้อมเคล็ดลับการกินให้ได้ผลดีที่สุด
โปรตีน (Protein)
เป็นวัตถุดิบหลักของเส้นผม โดยโปรตีนเป็นโครงสร้างหลักของเส้นผม หากขาดโปรตีน ผมจะอ่อนแอ ขาดง่าย และร่วงเร็วขึ้น อาหารที่แนะนำ
- ไข่ เพราะมีทั้งโปรตีน ไบโอติน และธาตุเหล็ก
- ปลาแซลมอน เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนและโอเมก้า 3
- เนื้อไก่ไม่ติดมัน เพราะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง
- ถั่วและเต้าหู้ โดยเหมาะสำหรับท่านที่ทานมังสวิรัติ
- โยเกิร์ตกรีก อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็น ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนและบำรุงหนังศีรษะ
- ควินัว เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีกรดอะมิโนครบถ้วน รวมถึงให้ไฟเบอร์และวิตามินที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย
- นมไขมันต่ำ ให้โปรตีนคุณภาพสูงและแคลเซียมที่จำเป็นต่อการรักษาโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรง
- ชีสไขมันต่ำ แหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่ช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่น
- กุ้ง ให้โปรตีนสูงพร้อมด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผมและหนังศีรษะ
- หอยนางรม อุดมไปด้วยโปรตีนและสังกะสี ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผมและลดปัญหาผมร่วง
ไบโอติน (Biotin)
เป็นวิตามินเร่งผมยาว ลดผมร่วง ซึ่งไบโอตินจะช่วยกระตุ้นการสร้างเคราติน และเสริมความแข็งแรงของรากผม การมีภาวะขาดไบโอตินจะทำให้ผมร่วงและเล็บเปราะบางง่าย อาหารที่แนะนำ
- อะโวคาโด ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมไบโอตินได้ดีขึ้น ช่วยให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นและเงางาม
- อัลมอนด์ และวอลนัท อุดมไปด้วยกรดไขมันที่ช่วยลดการอักเสบในหนังศีรษะ ผสมผสานกับไบโอตินช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและเสริมสร้างความแข็งแรง
- ไข่แดง เป็นแหล่งของไบโอตินและสารอาหารอื่น ๆ เช่น โปรตีนและวิตามินต่าง ๆ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผมและเพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันการแตกปลายของเส้นผม
- กล้วย มีวิตามิน B และไบโอตินในปริมาณที่ช่วยส่งเสริมการผลิตโปรตีนในเส้นผม อุดมไปด้วยโพแทสเซียมที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายและหนังศีรษะ
- ตับ คือ แหล่งไบโอตินที่โดดเด่น พร้อมวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ช่วยบำรุงผมและผิวพรรณ
- ปลาแซลมอน เพราะนอกจากให้โปรตีนคุณภาพแล้ว ยังอุดมไปด้วยไบโอตินและโอเมก้า-3 ที่ช่วยดูแลหนังศีรษะ
- ผักโขม มีไบโอตินและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
- มันหวาน อุดมไปด้วยเบต้า-แคโรทีนและไบโอติน ซึ่งช่วยบำรุงหนังศีรษะและรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม
- นมและผลิตภัณฑ์นม (เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ) โดยเป็นแหล่งของไบโอตินรวมถึงแคลเซียมที่จำเป็นต่อความแข็งแรงของเส้นผม
- ถั่วลิสง มีปริมาณไบโอตินและโปรตีนที่ช่วยบำรุงผมให้แข็งแรง
อ่านเพิ่มเติม: เคล็ดลับเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวเพื่อลดการหลุดร่วงของผม
ธาตุเหล็ก (Iron)
สามารถช่วยให้รากผมได้รับออกซิเจนเพียงพอ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญทำให้รากผมสามารถรับออกซิเจนและสารอาหารได้อย่างเพียงพอ หากร่างกายขาดธาตุเหล็กจะเกิดภาวะผมร่วงง่ายกว่าปกติ อาหารที่แนะนำ
- ตับวัว/ตับไก่ เป็นแหล่งของธาตุเหล็กในรูปแบบฮีม (heme iron) ที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีวิตามินและโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผมใหม่
- เนื้อวัวไม่ติดมัน ซึ่งอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและสังกะสีที่จำเป็นต่อการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและลดปัญหาผมร่วง
- หอยนางรม นอกจากธาตุเหล็กแล้ว หอยนางรมยังมีสังกะสีและโปรตีน ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมและรักษาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ
- ไข่แดง เป็นแหล่งที่มีธาตุเหล็กและสารอาหารอื่น ๆ เช่น ไบโอตินและโปรตีน ที่ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผมและส่งเสริมความแข็งแรง
- ผักโขม คือ ผักใบเขียวเข้มนี้อุดมไปด้วยธาตุเหล็กในรูปแบบไม่ใช่ฮีม พร้อมวิตามิน C ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
- ถั่วเลนทิล ทานประจำช่วยให้ธาตุเหล็กพร้อมด้วยไฟเบอร์และโปรตีนจากพืช ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมและรักษาสุขภาพโดยรวม
- ถั่วดำ/ถั่วแดง เป็นแหล่งธาตุเหล็กจากพืชที่ดี พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระในหนังศีรษะ
- เมล็ดฟักทอง อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและแมกนีเซียมที่สำคัญต่อการรักษาสมดุลของเซลล์ผมและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม
- บีทรูท มีธาตุเหล็กและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและส่งสารอาหารไปยังรากผม ส่งผลให้ผมมีสุขภาพดี
- บร็อคโคลี ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
วิตามินเอ (Vitamin A)
เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการสร้างไขมันที่บริเวณหนังศีรษะเพราะวิตามินเอช่วยกระตุ้น การผลิตซีบัม (Sebum) ซึ่งทำให้หนังศีรษะชุ่มชื้น ลดปัญหาผมแห้งและขาดง่าย แต่มีข้อควรระวังคือไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายสะสมวิตามินเอในปริมาณที่เกินความจำเป็นจนส่งผลเสียต่ออาการปัญหาผมหลุดร่วง อาหารที่แนะนำ
- ตับวัว เป็นแหล่งวิตามิน A ที่เข้มข้น ช่วยบำรุงเซลล์ผมและกระตุ้นการเจริญเติบโต แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
- แครอท อุดมไปด้วยเบต้า-แคโรทีนที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามิน A ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผมและบำรุงหนังศีรษะ
- ฟักทอง มีเบต้า-แคโรทีนสูง ซึ่งเปลี่ยนเป็นวิตามิน A และช่วยรักษาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ
- มันเทศ เป็นอีกหนึ่งแหล่งของเบต้า-แคโรทีนที่ช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ผม
- ผักโขม ผักใบเขียวเข้มนี้อุดมไปด้วยวิตามิน A พร้อมด้วยสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยบำรุงทั้งเส้นผมและหนังศีรษะ
- คะน้า มีวิตามิน A สูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่ในหนังศีรษะและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
- พริกหวานสีแดง ให้วิตามิน A ควบคู่กับวิตามิน C ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ
- มะม่วง คือ ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และวิตามิน C ซึ่งช่วยบำรุงหนังศีรษะและทำให้เส้นผมมีความเงางาม
- แอปริคอท มีเบต้า-แคโรทีนสูง ช่วยป้องกันการแห้งเสียของเส้นผมและบำรุงให้ผมดูมีชีวิตชีวา
- มะละกอ เป็นผลไม้ที่มีวิตามิน A พร้อมทั้งวิตามิน C และเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยสลายโปรตีน ส่งผลดีต่อการบำรุงและซ่อมแซมเส้นผม
วิตามินซี (Vitamin C)
มีส่วนสำคัญโดยเป็นตัวช่วยที่ดีที่กระตุ้นร่างกาย ในการซึมซับธาตุเหล็ก พร้อมทั้งช่วยสร้างคอลลาเจนซึ่งมีความสำคัญต่อรากผม อาหารที่แนะนำ
- ส้ม คือ ผลไม้ยอดนิยมที่อุดมไปด้วยวิตามิน C ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนสำหรับเส้นผมและบำรุงหนังศีรษะ
- กีวี มีวิตามิน C ในปริมาณสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและส่งเสริมความแข็งแรงของเส้นผม
- สตรอเบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน C ที่ช่วยปกป้องเซลล์ผมจากความเสียหาย
- พริกหวานสีแดง มีวิตามิน C สูงมาก ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะและบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
- บร็อคโคลี อุดมไปด้วยวิตามิน C รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ผม
- มะละกอ มีวิตามิน C แล้วยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
- มะนาว มีวิตามิน C สูง ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในเส้นผม
- แคนตาลูป ให้วิตามิน C รวมถึงวิตามิน A ซึ่งช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้มีสุขภาพดี
- ผักคะน้า คือผักใบเขียวเข้มที่อุดมไปด้วยวิตามิน C และสารอาหารอื่นๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของเส้นผม
- ฝรั่ง คือ หนึ่งในผลไม้ที่มีวิตามิน C สูงมาก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและส่งเสริมการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย
โอเมก้า 3 (Omega-3)
เป็นตัวช่วยที่สามารถทำให้เส้นผมเงางาม ลดผมขาดหลุดร่วง ลดอาการคันและยังช่วยเพิ่มความเงางามของเส้นผม อาหารที่แนะนำ
- ปลาแซลมอน มี EPA และ DHA สูงที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและลดการอักเสบ ส่งผลให้ผมเงางามและแข็งแรง
- ปลาแมกเคอเรล อุดมไปด้วย Omega-3 ซึ่งช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะและสนับสนุนการเจริญเติบโตของเส้นผม
- ปลาเฮอร์ริง เป็นแหล่งของ Omega-3 ที่ดี ช่วยให้หนังศีรษะได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและลดปัญหาผมร่วง
- ปลาซาร์ดีน คือ ปลาเล็กที่อุดมไปด้วยไขมันดีและ Omega-3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบและบำรุงเซลล์ผม
- เมล็ดแฟลกซ์ เป็นแหล่ง Omega-3 ในรูปแบบ ALA จากพืช ที่ช่วยให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นและลดปัญหาผมแห้งเสีย
- เมล็ดเจีย มีปริมาณ Omega-3 สูงในรูปแบบ ALA ซึ่งช่วยฟื้นฟูและบำรุงผมให้แข็งแรงและยืดหยุ่น
- วอลนัท นอกจากจะอุดมไปด้วยโปรตีนแล้ว วอลนัทยังมี Omega-3 แบบ ALA ที่ช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพหนังศีรษะ
- เฮมพ์ซีด เป็นแหล่งไขมันดีจากพืชที่มีอัตราส่วน Omega-3 ต่อ Omega-6 ที่สมดุล ช่วยบำรุงผมและหนังศีรษะ
- ออยล์สาหร่าย เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ ออยล์สาหร่ายเป็นทางเลือกที่ดีในการได้รับ DHA และ EPA จากพืช เพื่อบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ
- ปลาทูน่า มีแหล่งที่ดีของกรดไขมันที่ช่วยเพิ่มความเงางามและความแข็งแรงให้กับเส้นผม
วิตามินอี (Vitamin E)
สามารถช่วยปกป้องเซลล์ผมและหนังศีรษะจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ ซึ่งส่งผลให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน E อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพผมให้แข็งแรงและเงางามจากภายใน อาหารที่แนะนำ
- อะโวคาโด อุดมไปด้วยวิตามิน E และไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ป้องกันการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระและให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม
- อัลมอนด์ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดในหนังศีรษะ และสนับสนุนการเจริญเติบโตของเส้นผม
- วอลนัท มีวิตามิน E ร่วมกับกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบในหนังศีรษะและบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและเงางาม
- เมล็ดทานตะวัน เป็นแหล่งวิตามิน E จากธรรมชาติ พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ผม
- น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารหรือทาบนหนังศีรษะโดยตรง เพื่อให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผมจากภายนอก
- ผักโขม มีวิตามิน E พร้อมด้วยสารอาหารและไฟเบอร์ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผมและลดปัญหาความแห้งเสีย
- บร็อคโคลี มาพร้อมวิตามิน C ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน วิตามิน E ในบร็อคโคลีช่วยปกป้องเส้นผมจากอนุมูลอิสระและส่งเสริมความแข็งแรง
- ไข่แดง เป็นแหล่งของวิตามิน E และโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผม บำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี
- กีวี อุดมไปด้วยวิตามิน E และวิตามิน C ซึ่งร่วมกันกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการสร้างคอลลาเจนในหนังศีรษะ
- มะม่วง มีวิตามิน E พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผมให้มีความชุ่มชื้น
ซิงค์ (Zinc)
มีบทบาทสำคัญในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ เพราะสังกะสีช่วยในการสร้างโปรตีน ซ่อมแซมเซลล์ผม และควบคุมการทำงานของต่อมไขมันในหนังศีรษะ ส่งผลให้ผมแข็งแรงและลดปัญหาผมร่วง อาหารที่แนะนำ
- หอยนางรม เป็นหนึ่งในแหล่งสังกะสีที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ผม
- เนื้อวัวไม่ติดมัน มีสังกะสีและโปรตีนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเซลล์และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
- เนื้อแกะ เป็นแหล่งของสังกะสีและธาตุอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผมและลดการหลุดร่วง
- กุ้ง ให้สังกะสีในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมโปรตีนที่บำรุงหนังศีรษะและเซลล์ผม
- ปู คือ อาหารทะเลที่อุดมไปด้วยสังกะสี ช่วยปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมันในหนังศีรษะ
- เมล็ดฟักทอง เป็นแหล่งสังกะสีและวิตามิน E ที่ช่วยบำรุงให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นและแข็งแรง
- โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์นมที่มีสังกะสีพร้อมโปรตีน ช่วยบำรุงเส้นผมจากภายในให้แข็งแรง
- ชีส โดยชีสให้สังกะสีและไขมันดี ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเส้นผม
- ถั่วลิสงเป็นแหล่งของสังกะสีที่ดี นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและไขมันที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมและลดปัญหาผมร่วง
- อัลมอนด์ให้สังกะสีพร้อมกับวิตามิน E ซึ่งร่วมกันช่วยปกป้องเซลล์ผมจากอนุมูลอิสระและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ ทำให้ผมแข็งแรงและเงางาม
วิตามินดี (Vitamin D)
วิตามิน D มีบทบาทในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่และซ่อมแซมหนังศีรษะ ทำให้รากผมได้รับสารอาหารเพียงพอ ซึ่งช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรง ลดปัญหาผมร่วง และเสริมสร้างความเงางามให้กับผม อาหารที่แนะนำและแหล่งวิตามินดี
- สัมผัสกับแสงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้า
- ปลาแซลมอนมีไขมันดีและวิตามิน D สูง ซึ่งช่วยบำรุงหนังศีรษะและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผม
- ปลาแมกเคอเรลเป็นอีกแหล่งหนึ่งของวิตามิน D ที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบและบำรุงรากผม
- ปลาซาร์ดีนอุดมไปด้วยวิตามิน D พร้อมโปรตีนและกรดไขมันที่สนับสนุนการสร้างเซลล์ผมใหม่
- ไข่แดงเป็นแหล่งวิตามิน D ธรรมชาติที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม
- นมที่ถูกเสริมวิตามิน D ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน D ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ผม
- ชีส ซึ่งชีสบางชนิดอุดมไปด้วยวิตามิน D พร้อมโปรตีน ช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผม
- น้ำมันตับปลาคอด มีวิตามิน D ในปริมาณสูงและยังอุดมไปด้วยกรดไขมันที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ผม
- กุ้งเป็นอาหารทะเลที่ให้วิตามิน D ในปริมาณที่ดี พร้อมทั้งโปรตีนและแร่ธาตุอื่น ๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างเซลล์ผมและบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง
- นมอัลมอนด์เสริมวิตามิน D เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกจากพืช นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน D ที่จำเป็นต่อการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่และซ่อมแซมหนังศีรษะ
คอลลาเจน (Collagen)
มีส่วนช่วยสำคัญทำให้ผมแข็งแรง ไม่แตกปลาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและเงางาม เนื่องจากคอลลาเจนช่วยเสริมสร้างโครงสร้างและความยืดหยุ่นของเส้นผม อาหารที่แนะนำ
- น้ำซุปกระดูก เมื่อกระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต้มเป็นเวลานาน จะสกัดคอลลาเจนออกมา น้ำซุปกระดูกจึงเป็นแหล่งคอลลาเจนธรรมชาติที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม
- ปลาแซลมอนอุดมไปด้วยคอลลาเจนและกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบและบำรุงหนังศีรษะ ส่งผลให้ผมมีความเงางามและมีสุขภาพดี
- ปลาทูน่ามีคอลลาเจนที่ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของเส้นผมและช่วยป้องกันการแตกหักของเส้นผม
- ปลาซาร์ดีนมีโปรตีนและคอลลาเจนในปริมาณสูง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นผมและลดปัญหาผมร่วง
- เนื้อวัว โดยเน้นส่วนที่มีเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งมีส่วนของเอ็นหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน อุดมไปด้วยคอลลาเจน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม
- ไก่ ส่วนหนังและกระดูกไก่ที่ใช้ต้มซุปมีคอลลาเจนสูง ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง
- ตีนไก่เป็นหนึ่งในแหล่งคอลลาเจนที่ยอดเยี่ยม ใช้ต้มเป็นซุปเพื่อสกัดคอลลาเจน ช่วยให้ผมมีความชุ่มชื้นและลดปัญหาผมแห้งเสีย
- หนังหมู มีคอลลาเจนสูงและมักถูกนำมาทำอาหารตุ๋นหรือผัด ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดการแตกหักของเส้นผม
- คากิหมู อุดมไปด้วยคอลลาเจนธรรมชาติที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผมและฟื้นฟูสุขภาพของหนังศีรษะ
- หนังปลาที่ผ่านการคั่วหรือปรุงอาหาร สามารถให้คอลลาเจนที่ช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม
บทสรุป 10 อาหารและวิตามินที่ดีที่สุด สำหรับการบำรุงเส้นผมในปี 2025
ข้อมูลที่ได้รวบรวมมาในครั้งนี้ หวังว่าจะช่วยคุณดูแลให้ผมดูสลวยได้ไม่มากก็น้อย หากคุณกำลังเจอปัญหา ผมร่วง ผมบาง หรือผมอ่อนแอขาดง่าย แทนที่จะมองหาทรีตเมนต์ราคาแพง ลองเริ่มจากการกินอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมจากภายใน
ซึ่งสารอาหารสำคัญ เช่น ไบโอติน วิตามินเอ ซี ดี อี ธาตุเหล็ก และโปรตีน มีประโยชน์อย่างมาก มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้รากผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วง และเพิ่มความเงางามให้เส้นผม
สุดท้ายนี้ หากใครที่กำลังมีปัญหาหรือมีข้อกังวลใจ เรารวบรวม 10 อาหารและวิตามินที่ดีที่สุดสำหรับบำรุงเส้นผม ปี 2025 พร้อมคำแนะนำการกินให้ได้ผลสูงสุด หากอยากให้ผมหนาสุขภาพดี รีบเช็คแล้วเพิ่มเข้าเมนูโปรดของคุณโดยด่วน
References
- Healthline. (n.d.). The 14 Best Foods for Hair Growth. Retrieved from https://www.healthline.com/nutrition/foods-for-hair-growth
- WebMD. (n.d.). Foods for Healthy Hair. Retrieved from https://www.webmd.com/beauty/ss/slideshow-foods-healthy-hair
- HairMD India. (n.d.). Food for healthy hair. Retrieved from https://www.hairmdindia.com/blog/food-for-healthy-hair/
- Health. (n.d.). Foods for hair growth. Retrieved from https://www.health.com/foods-for-hair-growth-7963750
ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953