โรคเซ็บเดิร์ม ทำให้ผมหลุดร่วงก่อนวัยไหม
โรคเซ็บเดิร์มเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและต่างประเทศมายาวนาน โรคนี้จึงไม่ใช่โรคใหม่แต่อย่างไร “โรคเซ็บเดิร์ม” มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Seborrheic Dermatitis เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังใต้ชั้นผิว สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกเพศทุกวัย แต่ลักษณะอาการที่แสดงออกมาให้เห็นภายนอกนั้นย่อมแตกต่างกัน เช่น บางคนอาจมีอาการผื่นแดงขึ้นตามตัวทำให้รู้สึกแสบคันตามผิวหนัง หรือในบางคนอาจเกิดตุ่มแดงเล็กๆ ขึ้นบริเวณใบหน้าอาจลามขึ้นไปจนถึงหนังศีรษะของผู้ป่วยได้ คนที่ป่วยเป็น เซ็บเดิร์ม ผมร่วง เราจะเห็นได้ทั่วไปของคนที่เป็นโรคชนิดนี้
มาทำความรู้กับ โรคเซ็บเดิร์ม “Seborrheic Dermatitis”
เซ็บเดิร์ม ผมร่วง เป็นการอักเสบของผิวหนังชนิดหนึ่งหรือเรียกอีกอย่างว่าภาวะอักเสบจากต่อมไขมัน โรคนี้เกิดขึ้นเองภายในร่างกายของผู้ป่วยโดยไม่เเสดงอาการ เมื่อเป็นหนักขึ้นส่งผลทำให้อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายเกิดความผิดปกติ แต่จะมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อร่างกายเกิดผื่นแดงคันขึ้นตามตัวแล้ว อาการเหล่านี้จะแสดงเยอะขึ้นในบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่
โรคเซ็บเดิร์ม ทำให้ผมร่วงก่อนช่วงวัยจริงไหม
เซ็บเดิร์ม ผมร่วง นั้นคือเรื่องจริง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงและเกิดรังแคตามมาข้อนี้หลายคนคงยังไม่ทราบ เป็นต้นเหตุของปัญหาผมร่วง ลักษณะอาการของเซ็บเดิร์มที่เกิดขึ้นบริเวณหนังศีรษะคือ ตุ่มแดงๆ แห้งๆ เวลาเอามือไปเกา เราก็จะเห็นหนังศีรษะหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นบางๆ ขาวๆ ชิ้นเล็กๆ เกาะติดอยู่บนเส้นผมให้น่ารำคาญใจ ถ้าเกาแรงเส้นผมอาจมีโอกาสหลุดติดเล็บมาด้วย สรุปได้ว่าโรคเซ็บเดิร์ม ถ้าผู้ป่วยคนไหนเป็นแล้วไม่รีบเข้ารับการรักษาโดยเร็วอาจส่งผลให้ผิวหนังภายนอกเกิดความเสียหายได้ หรือใครที่เป็นเยอะๆ อาจลุกลามอักเสบไปทั่วบริเวณหนังศีรษะส่งผลทำให้เกิดปัญหาผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงก่อนวัยได้นั่นเอง

- ต้นเหตุของการเกิดเซ็บเดิร์มที่หลายคนยังไม่รู้คือ ความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะมลพิษทางอากาศ รวมไปถึงความผิดปกติของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เชื้อราบางชนิด โรคเซ็บเดิร์มไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพราะตราบใดที่ร่างกายยังมีต่อมไขมันทุกคนก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
- สำหรับใครที่ไม่อยากป่วยเป็นโรคเซ็บเดิร์ม ขอแนะนำให้พักผ่อนเพียงพอ ไม่โหมทำงานหนักจนเกินไป หลีกหนีความเครียดเพราะความเครียดเป็นต้นเหตุของผมร่วง เพราะเมื่อเราเครียดร่างกายจะผลิตสารชนิดหนึ่งออกมาที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งส่งผลโดยตรงให้เส้นผมอ่อนแอจนเกิดภาวะผมร่วงผมบางได้ แล้วถ้ายิ่งป่วยเป็นโรคเซ็บเดิร์มอีก ทีนี้ผู้ป่วยอาจจะเจอปัญหาผมร่วงหนักกว่าเดิมอีกนะคะเพื่อนๆ
โรคนี้จริงๆ แล้วไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างไร หนุ่ม สาวคนไหนที่บังเอิญเป็นโรคนี้ไม่ต้องตกใจ เพียงแค่รีบไปหาคุณหมอเฉพาะทางเพื่อแก้ไขปัญหาก็เท่านั้น
เพราะโรคนี้มีข้อเสียหลักๆ แค่ทำให้เกิดความรำคาญเท่านั้นเอง ร่างกายจะเป็นตุ่มแดงๆ คันๆ ผิวหนังอักเสบแห้ง สำหรับใครที่เป็นเยอะอาจจะทำให้เกิดความไม่สบายตัวไม่สบายใจได้ ถ้าเกิดเจ้าตุ่มเหล่านี้ลุกลามออกมานอกเสื้อผ้าก็จะทำให้ผู้ป่วยคนนั้นหมดความมั่นใจในตัวเอง บางคนที่เป็นเยอะ จะเห็นได้ชัดเจนหน้าแก้มจะมีผื่นแดงคาดกลางหน้าและจมูกเป็นแนวยาว ศัพท์ทางการแพทย์เรียกอีกอย่างว่า Butterfly Rash of Lupus ถ้าผู้ป่วยคนไหนที่อาการของโรคออกน้อย อาจจะมีแค่ผื่นแดง(ตุ่ม)บริเวณใบหน้าเล็กๆ หรือหัวคิ้ว ข้างจมูก หลังหู หน้าอก แผ่นหลังได้ บางคนเป็นแค่บริเวณศีรษะ จุดนี้ล่ะที่เป็นต้นเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง
โรคนี้เมื่อเข้ารับการรักษาอาการจะเริ่มดีขึ้น ภายใน 2-3 สัปดาห์ ผิวหนังก็จะเริ่มหายเองเป็นปกติ
ส่วนใหญ่โรคนี้จะเกิดขึ้นตามช่วงอายุจากผลการวิจัยกรมการแพทย์ได้ทำการสำรวจมาหลักๆ เซ็บเดิร์มเกิดขึ้น 2 ช่วงอายุนี้มากสุด
- ช่วงเด็กแรกเกิดเพราะช่วงนี้ร่างกายจะมีการผลิตต่อมไขมันเยอะกว่าปกติ จึงทำให้เราเห็นผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัวของเด็กทารกนั่นเอง
- ช่วงที่สองวัยกลางคน เพราะช่วงนี้ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนที่ผิดหรืออารมณ์แปรปรวนมากกว่ากลุ่มวัยรุ่น รวมถึงภาวะความเครียดทางด้านต่างๆ อีกด้วย โรคเซ็บเดิร์มต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ใช่โรคติดต่อนะคะ แต่ถ้าใครเป็นแล้วรักษาโรคเซ็บเดิร์มเท่าไรก็ไม่ทุเลาลงสักที เป็นโรคนี้ยาวนานติดต่อกัน 2-3 เดือน ให้สังเกตตัวเองไว้ก่อนเลยว่าเรามีโอกาสจะเป็นโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) โรค HIV หรือโรคทางประสาทบางชนิด
เป็นเซ็บเดิร์ม ห้ามกินอะไร
เป็นเซ็บเดิร์มเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง โรคนี้ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดมีแต่บรรเทาอาการให้ดีขึ้น และไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นได้ เซ็บเดิร์มเป็นโรคที่พบบ่อยในยุคปัจจุบัน โลกนี้เป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรแค่จะทำให้เกิดความรำคาญใจกับตัวบุคคลที่เป็นเท่านั้น
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคเซ็บเดิร์มง่ายมากๆ เลยค่ะ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นโรคชนิดนี้
- ห้ามแกะหรือเกาเด็ดขาด เพราะว่าถ้าเกิดเราแกะหรือเกาบริเวณที่เป็นโรคเซ็บเดิร์มอาจจะมีอาการอักเสบรุนแรงมากขึ้นแผลที่อาจกำลังจะหายจะลุกลามเป็นแผลติดเชื้อหรือแผลใหญ่ขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ เพราะว่าแสงแดดเมื่อโดนผิวหนังของคนเราจะรู้สึกว่ามีอาการแสบร้อน ไหม้แดง และถ้าคนป่วยที่เป็นโรคเซ็บเดิร์มหรือโรคผิวหนังทุกชนิดอยู่แล้วจะมีผิวหนังบางกว่าคนปกติทั่วไป ดังนั้นถ้าใครโดนแสงแดดแรงๆ อาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดอาการแสบไหม้ ผิวหนังอักเสบเป็นแผลได้
- หลีกเลี่ยงการสระผมบ่อยๆ ถ้าเกิดว่าคุณเป็นโรคเซ็บเดิร์มบริเวณหนังศีรษะ ไม่ควรสระผมบ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้หนังศีรษะแห้งและระคายเคืองได้ง่ายและถ้ายิ่งเราเอามือไปเกาบริเวณเส้นผมและหนังศีรษะแรงๆ แบบไม่รู้ตัวเกิดไปโดนจุดที่เป็นโรคเซ็บเดิร์มอาจจะทำให้เกิดบาดแผลและทิ้งรอยแผลเป็นได้ ส่งผลกระทบทำให้เส้นผมบริเวณนั้นอาจจะบางหรือไม่ขึ้นอีกเลยถ้าเกิดว่าผิวหนังตรงจุดนั้นกลายเป็นแผลเป็น
- สำหรับคนที่เป็นโรคเซ็บเดิร์มบริเวณลำตัว การดูแลนั้นค่อนข้างจะง่ายกว่าคนที่เกิดโรคนี้บนหนังศีรษะ เพราะตามผิวหนังร่างกายเราสามารถมองเห็นและทำความสะอาดง่าย สิ่งหลักๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงเลยก็คือ อย่าทาครีมบำรุงผิวที่มีสารเคมีรุนแรงเพราะจะทำให้ผิวหนังลอก บาง อักเสบติดเชื้อได้
เมื่อเป็นโรคเซ็บเดิร์มแล้วผู้ป่วยกลุ่มนี้ห้ามกินอะไร
จริงๆ แล้วยังไม่มีผลวิจัยทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์ด้านไหนออกมาชี้แจงแบบแน่ชัดว่าคนที่ป่วยเป็นโรคเซ็บเดิร์มควรห้ามรับประทานอาหารอะไร แต่การหลีกเลี่ยงอาหารบางกลุ่มที่เป็นตัวกระตุ้นบางชนิดก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มีอาการดีขึ้นได้
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเยอะจะไปกระตุ้นการอักเสบเนื้อเยื่อภายในร่างกายทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ อันนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยหรือคนทั่วไปก็ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- อาหารแปรรูปทุกชนิด เพราะว่าอาหารแปรรูปมักจะสูญเสียคุณค่าทางอาหารที่สำคัญต่างๆ ไปมากกว่าอาหารที่ปรุงใหม่ ที่สำคัญอาหารแปรรูปมีโซเดียมสูง ทุกคนทราบกันดีว่าอาหารที่มีโซเดียมหรือเกลือเป็นส่วนผสมที่สูงมากๆ ส่งผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าคนทั่วไป เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด อาหาร อาหารกลุ่มนี้มักทำให้มีระดับไขมันคอเลสเตอรอลไม่ดีมากกว่าปกติ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังทุกชนิด คุณหมอส่วนใหญ่มักสั่งห้ามรับประทานอาหารกลุ่มนี้ เพราะถ้ารับประทานเข้าไปเยอะๆ มันจะไปกระตุ้นอาการโรคผิวหนังที่เป็นอยู่ให้กำเริบขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น โรคเซ็บเดิร์มนั่นเอง รวมถึงคนที่เป็นสิวและโรคชนิดอื่นๆ อีกด้วย
- กลุ่มอาหารที่มีไขมันสูงทุกชนิด ส่งผลต่อระบบภายในร่างกายโดยตรงด้วยเหตุผลนี้เองคุณหมอจึงให้คนป่วยแทบทุกกลุ่มงดอาหารประเภทที่มีไขมันสูงหรือคอเลสเตอรอลสูง เพราะมันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ผิวหนังและทำให้ระบบภายในทำงานหนักกว่าปกติ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นเวลานานๆ ติดต่อกันจะไปกระตุ้นการผลิตน้ำมันใต้ชั้นผิวหนังที่เรียกว่า (sebum) กระตุ้นต่อมตัวนี้ทำให้เกิดการอักเสบใต้ชั้นผิวหนัง
- ของหมักดองทุกชนิดรวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ไม่ควรรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะมันจะไปกระตุ้นการอักเสบในร่างกายทำให้โรคเซ็บเดิร์มหรือโรคผิวหนังทุกชนิดที่กำลังจะใกล้หายเกิดลุกลามขึ้นหนักกว่าเดิม ทำให้ผิวหนังเกิดอาการแห้ง แตก เป็นขุยได้ง่าย เพราะว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังด้านนอกจะแห้ง แตก เป็นขุยอยู่แล้ว ผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังทานแอลกอฮอล์เข้าไปอีกมันก็จะไปกระตุ้นการทำงานใต้ชั้นผิวหนังเกิดอาการแห้ง แตก หยาบกระด้าง มากกว่าเดิม ดังนั้นกลุ่มอาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังทุกชนิด
เมื่ออ่านกันมาถึงจุดนี้ทุกคนคงจะคิดว่าแล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังสามารถทานอาหารอะไรได้บ้าง จริงๆ แล้วสามารถทานอาหารได้ทุกชนิดไม่มีข้อจำกัดอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าเกิดว่าป่วยเป็นโรคผิวหนังไม่ว่าจะเป็นโรคเซ็บเดิร์ม กลาก เกลื้อนและอื่นๆ คุณหมอจะแนะนำให้งดอาหารเบื้องต้นที่กล่าวมาเพื่อให้อาการสงบนิ่งแล้วค่อยกลับมารับประทานใหม่ถ้าผู้ป่วยไม่ได้มีการแพ้อาหารที่กล่าวมาเบื้องต้น
สำหรับใครที่กำลังเจอกับปัญหาผมร่วง ผมบาง จากโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไทรอยด์ โรคเซ็บเดิร์ม โรคเครียด หรือโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE) เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของโรคพุ่มพวง หรือกระทั่งการแพ้สารเคมีต่างๆ อยากจะแนะนำให้เข้าปรึกษาคุณหมอที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางด้านเส้นผมจะดีกว่าการซื้อเซรั่มบำรุงเส้นผมหรือยาปลูกผมมารับประทานเองแบบไม่มีความรู้นะคะ เพราะถ้าเกิดอาการแพ้อาจจะทำให้เส้นผมที่มีอยู่ร่วงหนักกว่าเดิมก็เป็นได้ ด้วยรักและหวังดีจากหมอแพตตี้ Hairtran Clinic
ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953
งานวิจัยจากสถาบัน :