skip to Main Content

ปลูกผมแล้วโดนน้ำฝนได้ไหม

ปลูกผม โดนน้ำฝนได้ไหม หน้าฝนแบบนี้ใครที่กำลังคิดจะปลูกผมถาวรคงสองจิตสองใจกันอยู่ถูกต้องไหม ถ้าเกิดปลูกผมช่วงหน้าฝนแล้วออกไปทำธุระด้านนอกบังเอิญต้องโดนน้ำฝนขึ้นมารอยแผลที่ยังไม่แห้งสนิทจะเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาหรือไม่

คำถามยอดนิยมที่ลูกค้าถามกันเข้ามาเยอะมาก ปลูกผม โดนน้ำฝนได้ไหม

ขึ้นชื่อว่าน้ำฝนทุกคนก็ต้องคิดว่าสะอาดถูกต้องไหมคะ เพราะถ้าเป็นในสมัยก่อนที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมและมลพิษทางอากาศ น้ำฝนที่ตกลงมาก็สามารถนำมาใช้อุปโภค บริโภคได้ แต่ในปัจจุบันเมื่อมีมลพิษทางอากาศเพิ่มมากขึ้น เลยทำให้น้ำฝนมีสิ่งเจือปน อย่างฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกต่างๆ ปนมา จนทำให้น้ำฝนไม่สะอาดอย่างที่คิดอีกต่อไป อ่านมาจนถึงจุดนี้คงเดาคำตอบไม่ยากแล้วถูกต้องไหมคะ

หลัง ปลูกผม โดนน้ำฝนได้ไหม ?

ควรหลีกเลี่ยงโดนน้ำฝนในช่วง 2 อาทิตย์แรกหรือจนกว่ารอยแผลจะเริ่มหายดี แต่ถ้าออกไปข้างนอกแล้วบังเอิญต้องโดนน้ำฝนขึ้นมาจริงๆ ควรใส่หมวกหรือกางร่มทุกครั้งในช่วง 1 เดือนแรกเพราะเนื่องจากน้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรดและยังเป็นแหล่งรวมสารพิษฝุ่นละอองอีกมากมายถ้าเกิดแผลไปสัมผัสกับน้ำฝนโดยตรงอาจเกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อได้

บังเอิญโดนฝนตกใส่แบบไม่ตั้งใจควรทำอย่างไร?

ง่ายมากๆ เลยค่ะ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ควรรีบอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดในทันที เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียที่มากับน้ำฝน มันจะเกาะติดอยู่บนเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงการใช้น้ำเกลือหรือน้ำสะอาดล้างบริเวณแผล และไม่ปล่อยให้บริเวณนั้นเกิดความอับชื้นเพื่อลดอาการอักเสบนั่นเอง

ผมเปียกทำให้ศีรษะเป็นเชื้อรา

ปลูกผมถาวรฤดูไหนก็ไม่ใช่ปัญหาของลูกค้าอีกต่อไปเพียงแค่รู้วิธีดูแลตัวเองและตั้งรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง

คำถามยอดนิยมที่ลูกค้าถามกันเข้ามาเยอะมาก ปลูกผม โดนน้ำฝนได้ไหม
คำถามยอดนิยมที่ลูกค้าถามกันเข้ามาเยอะมาก ปลูกผม โดนน้ำฝนได้ไหม

*** รูปหลังทำทันที : อาการปกติที่ไม่ได้มีการอักเสบ ***

สำหรับใครที่ปลูกผมถาวรไปแล้วเกิดอาการอักเสบขึ้นมา อันนี้ขอแนะนำให้รีบเข้าพบคุณหมอหรือคลินิกที่ให้บริการปลูกผมกับลูกค้าโดยทันที เพราะจะได้ทราบว่าการอักเสบนั้นมีสาเหตุมาจากอะไรแล้วควรแก้ไขอย่างไรกันแน่ ด้วยรักและหวังดีจาก Hairtran Clinic

ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :

Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953

ปลูกผม

Back To Top