skip to Main Content

DHT สามารถทำร้ายเส้นผมในผู้ชายได้อย่างไร

ความรู้สำคัญและสิ่งแรกๆ ที่หนุ่มผมบางศีรษะล้านต้องรู้คือสาเหตุต้นตอของอาการนี้ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย สุขภาพก็ดี เครียดก็ไม่เครียด ดูแลผมดีมาก แต่ทำไมผมถึงหายไปได้? จริงๆ แล้วนอกจากปัจจัยที่บังคับได้อย่างการดูแลสุขภาพให้ดี เครียดให้น้อย กินให้ดี ใช้ของดีแล้ว มันก็มีปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งก็คือพันธุกรรมของเรานั่นเอง เกิดมายังไงก็ต้องใช้ชีวิตกับมันไปเรื่อยๆ เลยค่ะ เพราะปัจจุบันเรายังไม่สามารถดัดแปลงพันธุกรรมในมนุษย์ได้ ปัจจุบันมากกว่า 50% ของคนที่มีอาการศีรษะล้านมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมและฮอร์โมน DHT ผู้ชาย

พันธุกรรมมันไปทำให้ผมเราร่วงได้ยังไงน่ะหรอคะ?

เรามาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะ เริ่มที่ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) บริเวณรากผมของเราก่อนเลย ฮอร์โมนเพศชายจะถูกแปลงเป็น Dihydrotestosterone (DHT) ด้วยเอ็นไซม์ที่เรียกว่า 5- alpha-reductase (5AR) ฮอร์โมน DHT นี้จะไปจับกับตัวรับที่เรียกว่า  androgen receptor ที่บริเวณรากผม ทำให้รากผมเริ่มฝ่อและวงจรผมสั้นลง หลังจากนั้นผมก็จะร่วงไปแล้วผมที่ขึ้นใหม่ก็จะเป็นเส้นเล็ก ที่ในสุดรากผมก็จะหายไป ทำให้ผมบริเวณนั้นล้าน

อายุเท่าไหร่ ถึงจะปลูกผมถาวรบริเวณกระหม่อมได้

อย่าเพิ่งตกใจไปว่าฮอร์โมน DHT เป็นสิ่งไม่ดีนะคะ ปกติในร่างกายเรามีฮอร์โมน DHT อยู่แล้ว เพื่อทำหน้าที่อื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย อย่างการแสดงลักษณะทางกายภาพของเพศชาย เป็นต้น แต่ถ้าเกิดว่าพันธุกรรมของเราทำให้เรามีฮอร์โมนนี้เยอะเกินไป ศีรษะก็สามารถล้านได้

นอกจากนี้ ถ้าพันธุกรรมกำหนดให้เรามี Androgen receptor เยอะเกินไปหรือไวต่อฮอร์โมน DHT มากเกินไปก็สามารถทำให้ผมเราร่วงและศีรษะล้านได้เช่นเดียวกัน

DHT ผู้ชาย ถ้ามีมากทำให้หัวล้านและสามารถทำร้ายเส้นผมในผู้ชายได้อย่างไร

ผลงานวิจัย DHT ผู้ชาย ถ้ามีมากทำให้หัวล้านและสามารถทำร้ายเส้นผมในผู้ชายได้อย่างไร

DHT ผู้ชาย ถ้ามีมากทำให้หัวล้านและสามารถทำร้ายเส้นผมในผู้ชายได้อย่างไร

Dr. Robert English Jr. แพทย์ผิวหนังจากประเทศอเมริกาได้ตั้งข้อสมมติฐานในวรสาร Medical Hypotheses ไว้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากฮอร์โมน DHT ถูกผลิตขึ้นมาคือ “Chronic scalp tension” หรือความตึงเรื้อรังบนศีรษะจากกล้ามเนื้อหรือกระโหลกศีรษะที่พัฒนาเยอะเกินไปจนเกิดแรงตึงและบีบรากผมทำให้เส้นผมในบริเวณนั้นเกิดความเครียด แล้วรากผมก็จะเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนผมเริ่มหลุดร่วงในที่สุด

**ทำความเข้าใจกันก่อนว่าเจ้าฮอร์โมน DHT  นั้นเป็นตัวกำหนดให้ร่างกายของผู้ชายมีกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ  ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้กล้ามเนื้อสามารถเกิดขึ้นในบริเวณหนังศีรษะได้เหมือนกัน

หลังจากที่เกิดความตึงเครียดมากๆ chronic inflammation หรือการอักเสบเรื้อรังก็จะเกิดขึ้นในบริเวณนั้น จนเกิดการตอบสนองที่เราสามารถเห็นได้ชัดในที่สุด

การตอบสนองนี้เรียกว่า Androgen Response หรือ การตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมน DHT ทำให้ต่อมไขมันผลิตความมัน (Sebum) มากเกินไป  ซึ่งนี่สามารถเป็นจุดสังเกตให้เห็นได้ว่าฮอร์โมน DHT กำลังมีผลต่อผมของเราอยู่ แล้วถ้ามีอาการผมร่วงผมบางศีรษะล้านร่วมด้วยล่ะก็ สาเหตุผมร่วงมาจากพันธุกรรมและฮอร์โมนอย่างแน่นอน 

อีกหนึ่งผลกระทบจากฮอร์โมน DHT คือการที่เส้นเลือดหดตัว เลือดไปเลี้ยงรากผมได้น้อยลง ออกซิเจนจึงส่งไปถึงเซลล์รากผมได้น้อยลง ทำให้เซลล์รากผมไม่สามารถทำงานและผลิตเซลล์ผมได้อย่างเต็มที่จนทำให้ผมเส้นเล็กลงและอ่อนแอลงในที่สุด

สำหรับคนที่ศีรษะล้านไปแล้ว คุณไม่สามารถทานยาเพื่อทำให้ผมของคุณกลับมาได้ ยาจะช่วยแค่ให้ผมไม่ร่วงไปมากกว่าเดิมเท่านั้น สิ่งเดียวที่ทำให้ได้ผมกลับมา คือ การปลูกผมค่ะ แล้วจะปลูกผมที่ไหนดีล่ะ?

DHT ผู้ชาย ถ้ามีมากทำให้หัวล้านและสามารถทำร้ายเส้นผมในผู้ชายได้อย่างไร

กินยาลดฮอร์โมนDHT แล้วส่งผลต่อส่วนสูงไหม

ผู้ชายและผู้หญิงทุกคนหยุดสูงอยู่ที่ช่วงอายุเท่าไหร่

จากเด็กข้ามสู่ไปช่วงวัยรุ่น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งขึ้นมาเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกายที่เรารู้จักกันในคำว่าโกรทฮอร์โมน (growth hormone) ฮอร์โมนชนิดนี้ทำหน้าที่เพื่อให้เด็กทุกคนไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงมีวิวัฒนาการเจริญเติบโตตามช่วงวัยได้อย่างปกติ แต่ถ้าเด็กคนไหนมีโกรทฮอร์โมนน้อยการเจริญเติบโตของเด็กคนนั้นก็จะช้ากว่าเด็กทั่วไป

ช่วงอายุที่ เด็กทุกคนจะเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ก็มีความแตกต่างกันออกไป แล้วแต่กรรมพันธุ์ของบุคคลนั้นๆ ปัจจัยที่ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตช้าหรือเร็ว ส่วนใหญ่ก็มาจากกรรมพันธุ์ เพศและสุขภาพโดยรวมของตัวเด็กด้วย

โดยทั่วไปแล้วเด็กผู้ชายจะก้าวเข้าสู่วัยเจริญเติบโตหรือวัยรุ่นช้ากว่าผู้หญิงมีผลงานวิจัยออกมาว่า ช่วงอายุที่ผู้ชายจะหยุดสูงหรือหยุดเจริญเติบโตจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 18 ถึง 20 ปีขึ้นไป บางรายอาจจะสูงหรือเจริญเติบโตได้ถึงช่วงอายุ 22 ปี เลยทีเดียว

ส่วนในเด็กผู้หญิง  จะก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก่อนเด็กผู้ชายและมักจะหยุดสูงหรือหยุดเจริญเติบโตเมื่ออายุเข้า 16 ปี หรือถ้าคิดง่ายๆ ก็คือผู้หญิงเมื่อมีประจำเดือนตอนอายุเท่าไหร่ ร่างกายของเราก็จะหยุดสูงและเจริญเติบโต. Cr Phyathai

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสูงของเด็ก

กรรมพันธุ์ เช่น ความสูงของพ่อแม่ รวมถึงบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยายทั้งหลายของเราทุกคน ส่งผลต่อต่อความสูง 100% ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ถ้าเรามองไปรอบตัวพ่อเตี้ย แม่เตี้ย พี่ชายเตี้ย แน่นอนค่ะเราเกิดมาก็ย่อมตัวเล็กและเตี้ยเช่นกัน ดังนั้นกรรมพันธุ์จึงเป็นตัวกำหนดความสูงของเราทุกคน 100% เต็ม

ฮอร์โมน ก็ตัวกำหนดการเจริญเติบโตของเหล่าผู้ชายและผู้หญิงทุกคนเช่นกัน คนไหนมีฮอร์โมนเยอะก็จะเจริญเติบโตเร็วกว่าคนทั่วไปแต่ถ้าคนไหนมีฮอร์โมนน้อยร่างกายก็จะเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ

การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ข้อนี้สำคัญมาก สำหรับเด็กวัยเจริญเติบโตทุกคน ต้องทานอาหารให้ครบถ้วน เช่น โปรตีน แคลเซียมและวิตามินต่างๆ เพื่อช่วยให้เด็กในวัยเจริญเติบโตสูงได้ไวกว่าคนที่ทานอาหารไม่ครบห้าหมู่

การออกกำลังกาย การออกกำลังกายในช่วงวัยเด็กหรือวัยแรกรุ่นนั้นจะทำให้เห็นเลยว่าร่างกายของเราสูงไวกว่าคนที่ไม่ได้เล่นกีฬา ยกตัวอย่างเช่นเด็กที่ชอบเล่นบาส เราจะเห็นว่าเด็กกลุ่มนี้ความสูงและตัวยืดไวกว่าเด็กในวัยเดียวกันที่ไม่ได้เล่นกีฬา

กินยาลดฮอร์โมน DHT แล้วส่งผลต่อส่วนสูงไหม

คำตอบ ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสูงของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงที่เข้ามารับบริการทำการปลูกผมถาวรแต่อย่างใด ยาลดฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาอาการผมร่วงผมบาง โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีปัญหาหัวล้านกรรมพันธุ์เท่านั้น การรับประทานยาลดฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ตัวนี้จะต้องอยู่ในการดูแลของคุณหมอเฉพาะทางเท่านั้นยาชนิดนี้สามารถหาซื้อตามท้องตลาดแต่ไม่แนะนำให้ชื้อมารับประทานเองเพราะเป็นยาเฉพาะทางที่ค่อนข้างจะอันตราย

ยาลดฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone)

Finasteride เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมและช่วยให้ผมที่ปลูกไปงอกขึ้นมาใหม่แข็งแรง ยา Finasteride ตัวนี้เป็นยาเฉพาะทางต้องให้คุณหมอปลูกผมเป็นคนสั่งจ่ายเท่านั้นถึงจะนำมารับประทานได้ สำหรับใครที่มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมน้อยแล้วอยากปลูกผมหรืออยากกินยาลดฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ตัวนี้แนะนำให้ปรึกษาคลินิกเฉพาะทาง เช่น Hairtran Clinic อ่านเพิ่มเติม ปลูกผม  FUE

ยา Finasteride ตัวนี้เป็นยาสำหรับคนที่เข้ามารับการรักษาเรื่องเส้นผมกับทางคลินิกเท่านั้นคนที่จะรับประทานยาตัวนี้ได้ต้องให้คุณหมอประเมินสภาพเส้นผมหนังศีรษะและประเมินร่างกายเบื้องต้นก่อนว่าควรทานยาชนิดไหนกลุ่มไหนในปริมาณขนาดเท่าไหร่หรือถ้าใครมีโรคประจำตัวอันนี้ยิ่งอันตรายใหญ่เลยควรมีใบรับรองแพทย์จากทางโรงพยาบาลมายื่นให้คุณหมอที่ทำการรักษาประเมินการรักษาควบคู่ด้วย

ปกติแล้วคุณสามารถปลูกผมได้ที่โรงพยาบาลบางแห่งและตามคลินิกปลูกผมค่ะ ถ้าจะให้ดีควรเลือกแพทย์ที่ทำการปลูกผมโดยเฉพาะ เพราะแพทย์เหล่านี้จะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่าและเฉพาะจุดกว่าแพทย์เสริมความงามทั่วไป อย่าง Hairtran Clinic ก็มีแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม ลูกค้าสามารถจองคิวเพื่อมาปรึกษากับแพทย์แบบฟรีๆ ได้เลยค่ะ

ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953

ปลูกผม

Back To Top